บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2020

ใครเป็นคนพาลุงไปที่ภูเขา?

รูปภาพ
      ย้อนไปประมาณ 10 กว่าปีที่จังหวัดพิษณุโลก ต้องขอท้าวความก่อนว่า คุณลุงผมเคยประสบอุบัติเหตุรถชนมาครับ สมองถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก จนเลอะเลือนกลายเป็นคนสติไม่ดีไปเลย คนแถวบ้านจะเรียกแกว่า ตาบัว ตั้งแต่เกิดเรื่องมา แกก็จะออกไปอยู่ของแกเอง ไม่ยอมเข้าใกล้ลูกหลานคนไหนเลย และแกน่าจะจำญาติๆ ได้แค่บางคนเท่านั้น แกจะมาขอข้าวบ้านป้าผมกินทุกๆ เช้า กับเที่ยง ถึงแม้ว่าลุงจะสติไม่ดี แต่ก็ยังรู้จักทำมาหากินนะครับ แกจะเก็บขวดขาย โดยจะเดินเก็บไปทั่วตลาดแถวบ้านผม และหมู่บ้านรอบข้าง มีอยู่วันหนึ่ง ลุงแกก็ออกไปเก็บขวดอะไรของแกตามปกติ แล้วแกก็คงปวดฉี่ คือปวดตรงไหนก็ฉี่มันตรงนั้นน่ะครับ วันนั้นแกก็ไปฉี่รดศาลเข้า ผมก็ไม่แน่ใจว่าศาลอะไรที่ไหนนะครับ มีชาวบ้านที่เห็นเขามาเล่าให้พ่อแม่ผมฟังอีกที.. พอวันถัดมา ลุงแกก็หายไป พ่อแม่ผมเลยไปถามป้าว่า วันนี้ลุงได้มาเอาข้าวไหม? ป้าก็บอกไม่ได้มา.. พ่อผมลองไปหาที่ที่แกเคยอาศัยอยู่ก็ไม่เจอ จน 2-3 วันเข้า พ่อก็เริ่มโทรหาพวกลูกๆ หลานๆ ที่เป็นผู้ชาย ให้ไปช่วยกันหาตามที่ที่แกเคยไป จน 2 อาทิตย์ผ่านไป ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี เลยต้องเพิ่มบริเวณค้นหากว้างขึ้นไปอีก จนไปได้เรื

นับคนดูซิ ครบไหม?

รูปภาพ
      ย้อนกลับไปสักเกือบ 10 ปี ตอนผมเรียนอยู่ชั้น ม.2 ขอไม่เอ่ยชื่อโรงเรียนนะครับ ช่วงนั้นผมต้องไปเข้าค่ายลูกเสือที่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ไปอยู่เป็นค่ายทหาร 3 วัน 2 คืน.. วันแรกของการเดินทาง พวกเพื่อนๆ ผมมันนั่งเล่าเรื่องผีกันบนรถ และคุยกันว่าค่ายที่จะไปนั้นจะมีผีหรือเปล่า? โดยที่ผมเป็นคนกลัวผีอยู่แล้ว เลยไม่ได้ฟังที่พวกมันเล่ากัน พอรถไปถึงค่าย พวกผมก็แบกกระเป๋าสัมภาระไปไว้ในที่พัก ที่พักจะกางเป็นเต๊นท์ติดๆ กันครับ เต๊นท์หนึ่งนอนกัน 5 คน เสร็จแล้วก็ต้องไปเข้าแถวที่เสาธงเพื่อเช็คชื่อ และทำกิจกรรมต่อ ตกเย็นเป็นช่วงเวลาพักผ่อน พวกผมก็ไปอาบน้ำกัน เป็นห้องอาบน้ำรวมครับ ทีนี้ช่วงกลางดึกคืนแรก พวกผมยังไม่นอน เพื่อนๆ ผมก็เอาแต่คุยเรื่องผีกัน ผมอยู่ตรงนั้นจะไม่ฟังก็ไม่ได้ เลยต้องจำใจฟังไปกลัวไป แต่แล้วสักพักทุกคนก็ได้เสียงผู้หญิงยุวกาชาดคนหนึ่งร้อง ‘กรี๊ดดด’ เสียงดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนตกใจต้องลุกออกมาดู จนคุณครูมาถามเธอคนนั้นว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? เธอคนนั้นบอกว่า ‘หนูฝันว่านอนอยู่ แล้วมีผู้ชายแก่สวมเสื้อสีขาวเข้ามาในเต๊นท์ มาบอกหนูว่า พวกมึงเจอดีแน่!’ ซึ่งทุกคนได้ยินแบบนั้นก็กลัว แต่ส่วนมากก็

กูไม่กลัวมึงหรอก

รูปภาพ
      เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน เราเรียนอยู่ชั้น ม.6 อาศัยอยู่กับพ่อที่จังหวัดสระบุรี เป็นบ้านพักคนงานก่อสร้างค่ะ ลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทำจากไม้อัด มุงหลังคาสังกะสี ปูผ้านอนบนพื้น มีห้องน้ำ และที่อาบน้ำรวม พ่อเราใช้สิทธิ์อยู่มานาน เลยบอกผู้ใหญ่ว่าขอ 2 ห้อง เพราะอย่างนั้นเรากับพ่อเลยได้อยู่กันคนละห้องเลย.. เราเป็นคนนิสัยไม่ดี เกเรมาก ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ออกเที่ยวหลัง 4 ทุ่มทุกคืน โรงเรียนก็ไม่ไปเป็นเดือนๆ และเรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากนี้ค่ะ..วันหนึ่ง เรามีเรื่องทะเลาะตบตีกับเพื่อนอีกห้องค่ะ ด้วยความห้าว และคึกคะนอง ก็โดนเข้าห้องปกครองไปตามระเบียบ พอตกเย็นก็ไปเชียร์บอลที่โรงเรียนนายร้อยกับเพื่อนจนมืด ขากลับประมาณ 2 ทุ่ม มีน้องผู้ชายคนหนึ่งที่กิ๊กกับเพื่อนเราอยู่ อาสาไปส่งโดยรถกระบะคาร์รี่บอยค่ะ เรานั่งเบาะหลังกับเพื่อนอีก 2 คน ส่วนข้างหน้า 2 คนคือเพื่อนเราอีกคนกับน้องผู้ชาย.. ก็ขับมาสักพัก เรากับเพื่อนๆ ในรถก็หลับพักสายตากัน แต่แล้วอยู่ดีๆ รถก็เสียหลักข้ามฟุตบาทไปอีกเลนถนน ไปชนเข้ากับกำแพงบ้านใครก็ไม่รู้ คือชนแรงมาก แต่โชคดีที่ไม่มีไครเป็นอะไร นอกจากน้องผู้ชายคนขับที่หัวแตก รถกู้

กลัวจนน้ำตาเริ่มไหล

รูปภาพ
      เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ร้านอาหารใหญ่แห่งหนึ่งในพัทยาครับ ก็ไปสมัครงาน และหาบ้านเช่าเอาไว้เรียบร้อย ถือว่าเป็นการย้ายงานที่ดีมากสำหรับผม ทั้งค่าจ้าง และเพื่อนร่วมงาน ลักษณะที่ร้านนี้จะเป็นตึก 5 ชั้น ชั้น 1-2 จะเป็นห้องแอร์ทั่วไป ชั้น 3 จะเป็นห้อง VIP ส่วนชั้น 4 เป็นชั้นสำหรับเก็บของ และชั้น 5 จะเป็นห้องพักของคนขับรถของเจ้าของร้าน สมัยก่อนตึกนี้จะเดินทะลุถึงกันกับโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว การขึ้น-ลงแต่ละชั้น จะใช้เพียงลิฟท์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะบันไดจะอยู่ฝั่งโรงแรมที่ปิดไปแล้วครับ ผมทำงานอยู่ที่นี่ราวๆ 2 เดือน เวลาเลิกงาน ก็มักจะจับกลุ่มกินเหล้ากันที่บ้านเช่าของพนักงานครับ ด้วยความที่ผมเป็นเด็กใหม่ เวลาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับร้าน ผมก็จะถามพวกพี่ๆ ที่นั่งกินเหล้าด้วยกัน ก็ถามนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย จนถึงคำถามหนึ่ง ผมถามว่า ‘เออพี่! ที่ร้านเราผมก็เคยไปมาทั่วแล้ว แต่ยังไม่เคยไปชั้น 3 เลย..’ สิ้นคำถามของผม ทุกคนที่กินเหล้าเฮฮากันอยู่ก็เงียบไปเฉยๆ.. จนมีพี่คนหนึ่งพูดขึ้นว่า ‘ชั้น 3 มันเป็นห้อง VIP น่ะ เอาไว้ให้แขกช่วงไฮซีซั่นตอนช

บ้านหลังนี้มีแต่เรื่อง

รูปภาพ
      ย้อนไปสมัยตอนเราอายุประมาณ 20 กว่าปี ที่บ้านเราจะมี พ่อเลี้ยง แม่ พี่สาว 2 คน และเรา ตอนนั้นพวกเราอยู่เป็นบ้านเล็กๆ อยู่มานาน จนมีวันหนึ่งพ่อเลี้ยงเรามีความคิดว่าอยากจะขยับขยาย เพราะบ้านที่อยู่มันเล็กเกินไปเทียบกับจำนวนคน แม่เราเลยไปปรึกษาเพื่อนๆ ว่าจะหาบ้านเช่าสักหลังอยู่ เพื่อนๆ แม่ก็ช่วยกันหา จนไปเจอบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่ง ราคาไม่แพงเท่าไร แม่กับพ่อเลี้ยงเราลองไปดู ก็ถูกใจ และตกลงเช่าบ้านหลังนี้ ขออธิบายลักษณะบ้านก่อนนะคะ เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น เปิดจากประตูรั้วบ้าน จะมีลานสำหรับจอดรถได้ 1 คัน และประตูหน้าบ้าน กับหลังบ้านจะตรงกันพอดี พอเปิดประตูบ้านมา ทางขวามือจะมีห้องนอน 1 ห้อง และชั้น 2 จะมีห้องนอน 2 ห้องค่ะ พี่สาวคนโตเราเป็นลูกคนโปรด พี่เลยบอกแม่ว่า โตแล้วขอห้องส่วนตัวชั้น 2 ส่วนเรากับพี่สาวคนกลาง นอนด้วยกันที่ห้องนอนชั้นล่าง พอเอาข้าวของย้ายเข้ามาไว้ในบ้าน แม่ก็พาไปซื้อเตียง ซื้อตู้ พอกลับบ้านมา ก็จัดการเอาของขึ้นห้อง เราก็ไปช่วยพี่สาวคนโตจัดของบนชั้น 2 แต่เรามีความรู้สึกว่าห้องนอนห้องนี้มันอึดอัด และอึมครึม ไม่ค่อยสว่าง ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเป็นช่วงบ่าย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร

ถ้าเจอหนักๆจะขนาดไหน

รูปภาพ
      เป็นเรื่องของแฟนแพรเองค่ะ คือเมื่อหลายปีที่แล้ว แฟนแพรโดนทหาร 1 ปี ช่วงที่แฟนใกล้จะได้ปลดประจำการ ก็จะต้องไปฝึกภาคกองพันที่จังหวัดสระบุรีค่ะ ตอนนั้นที่ไปกัน ถ้านับความอาวุโสของรุ่น แฟนแพรจะถือเป็นน้องสุด จึงมักจะต้องโดนทั้งจ่า ทั้งรุ่นพี่ไหว้วานให้ทำโน่นทำนี่ให้อยู่เสมอ คืนแรกที่ไปยังไม่เจออะไรค่ะ เหตุการณ์เป็นปกติดี แต่พอมาถึงคืนที่ 2 นี่ล่ะค่ะ.. ก่อนอื่นขออธิบายลักษณะของสถานที่ก่อน คือเต๊นท์นอนของแฟนเราจะอยู่ทางด้านขวาของเต๊นท์ใหญ่ และจะมีรถถังจอดเรียงกันอยู่หน้าเต๊นท์ใหญ่ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางด้านซ้ายของเต๊นท์ใหญ่ เวลาจะเดินไปห้องน้ำจะต้องเดินผ่านหน้าเต๊นท์ใหญ่..คืนนั้นแฟนปวดฉี่ค่ะ เวลาสักประมาณตี 2 ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ มันจะต้องผ่านรถถังค่ะ ขาไปไม่เจออะไร แต่ขากลับ แฟนบอกว่าเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว ผมยาว มองเห็นหน้าไม่ชัดเพราะความมืด กำลังนั่งอยู่บนปากกระบอกปืนรถถัง และกำลังมองมาที่แฟนเราเลยค่ะ คือรู้สึกได้ว่าเขามองอยู่ แต่ไม่เห็นหน้าตา แฟนเราก็พยายามเพ่งมอง ว่าตาฝาดหรือเปล่า? เพราะระยะที่ยืนกับรถถังมันประมาณ 20 เมตรได้ แต่แฟนเรามั่นใจว่าใช่ล่ะ ผีแน่นอน!

ลุงหลังค่อม

รูปภาพ
      เมื่อหลายปีก่อน ผมอาศัยอยู่ที่ซอยแฉล้ม แถวถนนพระรามสาม – เจริญกรุง ช่วงเย็นโพล้เพล้วันหนึ่ง ผมได้ข่าวว่าแม่ยายเข้าโรงพยาบาล ผมกับแฟนเลยจะไปเยี่ยมท่านกัน แต่เนื่องจากรถยนต์เสีย ผมจึงชวนแฟนเดินออกจากซอยเพื่อไปเรียกรถสามล้อ พอออกจากซอยมาก็ข้ามถนน เป็นถนนขนาด 2 เลนรถสวน ตรงช่วงที่เป็นทางโค้งหักศอก เดินข้ามถนนมาทางฝั่งที่เป็นวัด พ้นโค้งออกมาหน่อยเพื่อยืนรอเรียกรถตรงจุดนั้น ขณะที่ผม และแฟนรอรถอยู่ จู่ๆ ก็มีชายแก่หลังค่อมๆ เนื้อตัวสกปรกมายืนอยู่ข้างๆ ผมก็ประหลาดใจว่าลุงแกมายืนตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมแอบเหลือบมองลุงแกจากด้านข้างไปหลายครั้ง คิดในใจว่า ‘เอ่อ.. ลุงคนนี้หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวพิลึก’ แล้วผมก็มองไล่ไปที่การแต่งกาย คือมันไม่ได้แค่สกปรกครับ แต่เรียกว่าโสโครกเลยต่างหาก สภาพเหมือนแกเพิ่งขึ้นมาจากท่อระบายของเสียยังไงยังงั้น แต่ไม่เปียกนะครับ..ขณะที่แอบมองเพลินๆ ก็มีรถกระบะคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วพอประมาณ แล้วลุงหลังค่อมแกก็หันหน้ามามองผมแว่บหนึ่ง ก่อนจะกระโดดโผไปตัดหน้ารถอย่างรวดเร็ว ผมตกใจร้อง ‘เฮ้ย!’ เสียงดัง รีบก้าวขาลงจากฟุตบาท เอามือพยายาม จะเอื้อมคว้าตัวลุงแกไว้ กลัวจะโดนรถ

ให้ผีมาส่งถึงบ้าน

รูปภาพ
      เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ10 กว่าปีก่อนครับ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เส้นทางสายในไปอำเภอปะคำ สมัยนั้นถนนเส้นนี้ค่อนข้างเปลี่ยวมากๆ คืนนั้นราว 5 ทุ่มครึ่ง ผม แม่ ป้า และพ่อเลี้ยง กำลังเดินทางกลับจากบ้านยายที่อำเภอนางรอง ก็ขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ว่าครับ เวลานั้นรถจะผ่านไปมานี่แทบไม่มีเลย แถม 2 ข้างทางก็ไม่มีไฟถนนแม้แต่ดวงเดียว แล้วพอขับไปสักระยะหนึ่ง รถเจ้ากรรมก็ดันเสียครับ จอดนิ่งอยู่กลางทางอันมืดสนิท ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนได้ พอดีเห็นมีบ้านหลังหนึ่งเปิดไฟสว่างอยู่ไกลๆ พ่อเลี้ยงกับผมเลยช่วยกันเข็นรถไปที่บ้านหลังนั้นทันที..พอไปถึง มีลุงแก่ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่หน้าบ้านถามว่า ‘รถเป็นอะไรเหรอ?’ แม่ผมตอบไปว่า ‘จู่ๆ รถกระตุกแล้วก็ดับไปเฉยๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย..’ จากนั้นลุงแกก็ชวนพวกเราเข้าบ้านตามมารยาทครับ พอเข้าบ้านไปก็รู้สึกแปลกใจครับ เพราะเที่ยงคืนแล้ว คนในบ้านทุกคนยังไม่นอน แถมยังหน้าตาแจ่มใสมาก ดูไม่ง่วงเลย อากาศในบ้านก็เย็นแปลกๆ ส่วนแม่กับป้าผมก็ชวนลุงกับป้าที่บ้านนั้นคุยกันไปเรื่อย จนป้าที่บ้านนั้นเล่าให้ฟังว่า ‘เนี่ยลูกสาวเพิ่งเสียไปไม่นาน..’ พร้อมกับชี้ไปที

หันมาแต่หัว ตัวไม่หันมา

รูปภาพ
     ปกติผมไม่เคยเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมีอยู่จริง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เพราะผมได้เจอแบบจะๆ กับตัวเองมาแล้ว ขอย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ผมอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนล่างของจังหวัดบุรีรัมย์ หมู่บ้านจะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร มีต้นไม้ล้อมรอบหมู่บ้านเต็มไปหมด และมีวัดเล็กๆ อายุเก่าแก่พอๆ กับหมู่บ้านอยู่ด้วย ผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และน้องชาย และจะมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งชื่อ ตาเด่น ครับ บ้านผมกับบ้านตาเด่นจะอยู่ติดกันเลย ตาเด่นแกอยู่ตัวคนเดียว ลูกเต้าไม่มี ส่วนเมียแกเสียแล้วด้วยโรคประจำตัวตั้งแต่ยังสาว แกเลยเป็นพ่อหม้ายมาจนถึงทุกวันนี้ บุคลิคของตาเด่นแกจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจาสุงสิงกับใคร นานๆ ทีผมกับแกจะได้พูดคุยถามสาระทุกข์สุขดิบกันบ้าง และแกก็เอ็นดูผมเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง เพราะแกเห็นผมมาตั้งแต่เด็ก.. จนเช้าวันหนึ่ง มีคนมาบอกว่าตาเด่นแกเสียแล้ว ตอนนั้นผมก็ตกใจ แต่ก็คิดว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา และด้วยความที่ว่าตาเด่นแกตัวคนเดียว ผู้ใหญ่บ้านจึงให้ชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันจัดงานศพเล็กๆ ให้แกที่วัดของหมู่บ้านเพื่อความสะดวก โดยจะสวดศพ 3 วัน แล้วจึงค่อย

สวัสดีครับยาย

รูปภาพ
     ผมกับแฟนมีลูกกันตอนวัยเรียนครับ คุณยายของแฟนผมอายุมากแล้ว ท่านสนิทกับผมมาก และท่านก็ป่วยหนัก ในช่วงก่อนวันที่ท่านจะเสีย ท่านเรียกหาแต่ผม อยากจะเจอผมให้ได้ แต่ช่วงนั้นผมไปเยี่ยมท่านไม่ได้ เนื่องจากติดสอบปลายภาคครับ สุดท้ายแล้ว ท่านก็เสียชีวิตก่อนที่ผมจะสอบเสร็จ 4 วัน..ช่วงงานศพเป็นช่วงต้นปีครับ ผมก็ไปช่วยงานตามปกติเท่าที่จะทำได้ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี.. พอถึงช่วงวันหยุดสงกรานต์ ผมก็กลับไปเที่ยวบ้านแฟนอีกครั้ง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู คืนแรกเลย ผมกินเหล้าแถวบ้านแฟน ห่างไปประมาณ 3 หลัง ตั้งแต่เย็นจนมืดเลยครับ แฟนเห็นว่าผมไปนาน เลยมาตามผม แต่ผมก็ไม่ยอมกลับเพราะกำลังติดลมอยู่.. จนตอนดึกผมกลับขึ้นบ้าน ก็เกิดทะเลาะกันกับแฟนบนห้องนอน ซึ่งห้องมีกันอยู่ 3 คน คือผม แฟน และลูกสาววัย 4 ขวบ ระหว่างที่ผมกำลังทะเลาะกัน ก็ได้ยินเสียงคนแหบๆ กระแอมขึ้นมา ‘อะแฮ่ม’ เสียงดังฟังชัดเลย ผมก็พูดขึ้นมาว่า ‘เสียงใคร? ใครเป็นคนทำ..’ ตอนนั้นผมคิดว่าเป็นลูกสาวที่กำลังหลับอยู่ แต่จากเนื้อเสียงแล้วไม่น่าใช่ พอผมพูดออกไปแบบนั้น ทำให้แฟนผมรีบเดินเข้ามากอดผมทันที จากที่ทะเลาะๆ กันอยู่ กลายเป็นหายเลยครับ.. แล้วจากน

วิญญาณยิ้มให้ และยกมือไหว้

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเกือบ 20 ปีก่อน เราได้มาทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็ทำงานมาเรื่อยๆ ค่ะ จนมาวันหนึ่ง มีรุ่นน้องที่เป็นคนบ้านเดียวกัน ชื่อแพรวค่ะ น้องแพรวขอให้ช่วยพามาสมัครงานที่กรุงเทพฯ ด้วยความที่เราเป็นคนใจอ่อนชอบช่วยเหลือคน ก็เลยตกลงพามา แล้วน้องก็ได้งานค่ะ เราเห็นว่าน้องเพิ่งมากรุงเทพฯ เลยให้พักอยู่ด้วยกันกับเรา พอได้อยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกว่าน้องแพรวดูเป็นคนธรรมะธรรมโม บนหัวนอนของน้องจะมีพระ และหนังสือสวดมนต์อยู่เยอะมาก อยู่ด้วยกันจนค่อนข้างจะสนิทกันพอสมควร แล้วอยู่มาวันหนึ่ง น้องแพรวก็มีแฟน และก็ได้ย้ายออกไปค่ะ.. พอน้องย้ายออกไปแล้ว เราก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย อยู่ๆ วันหนึ่งตอนประมาณเกือบเที่ยงคืน น้องแพรวก็มาหาเราที่ห้อง มาถึงก็นั่งตรงปลายเตียงไม่พูดไม่จา เอาแต่ร้องไห้ เราถามอะไรก็ไม่ตอบ เลยคิดว่าต้องทะเลาะกับแฟนมาแน่ๆ เราก็ไม่เซ้าซี้อะไร ขอตัวไปอาบน้ำก่อน แป๊บๆ นึกขึ้นได้ว่าเราลืมผ้าเช็ดตัวไว้ เลยออกจากห้องน้ำมาหยิบ แต่พอออกมากลับไม่เห็นน้องแพรวแล้ว เราก็แปลกใจ เพราะแค่เวลาไม่ถึงนาที ทำไมน้องไปไม่บอกเรา? คิดว่าน้องคงรีบมั้ง เลยไม่ได้ติดใจอะไร..พอตอ

เขามาดี

รูปภาพ
      ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยนั้นเรากำลังหาบ้านเช่าอยู่กับแฟน เพื่อที่จะได้สะดวกในการเดินทางไปทำงาน เราทำงานอยู่ที่นนทบุรีค่ะ หาอยู่นาน จนมาเจออยู่หลังหนึ่ง แบ่งเช่าเป็นห้องๆ เลยทำการติดต่อกับเจ้าของบ้านเช่า เจ้าของบ้านก็พาเข้าไปดู และบอกกับเราว่า ‘ตอนนี้เหลืออยู่ห้องเดียวนะ และห้องนี้มีเสาตกน้ำมันอยู่ด้วย จะอยู่หรือเปล่า?’ เรากับแฟนซึ่งไม่เคยเจอเรื่องอะไรพวกนี้มากก่อนอยู่แล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไร ตกลงกันว่าจะเช่าค่ะ เจ้าของบ้านก็ถามกลับมาอีกว่า ‘ไม่กลัวเหรอ?’ เราก็คิดในใจว่า จะกลัวก็ตรงถามย้ำนี่แหละ.. แต่ก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ไม่ได้ลบหลู่ และบ้านนี้อยู่ในทำเลที่เราเดินทางสะดวกมากๆ เลยตัดสินใจเช่า ผ่านไปหลายวัน จนเป็นเดือนก็ยังปกติดี จนมีอยู่คืนหนึ่ง เป็นคืนวันพระ อากาศร้อนอบอ้าวมาก เวลาผ่านไป เรากับแฟนก็พากันหลับไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าได้นอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก.. คืนนั้นเรานอนหลับๆ ตื่นๆ หลับไม่สนิทเพราะอากาศที่อบอ้าว เราเลยลุกจากที่นอน แล้วไปนั่งเล่นมือถือ เล่นไปเล่นมา มือก็ไปโดนปุ่มเปิดกล้องเข้า เลยเอาวะ ถ่ายรูปเล่นแล้วกันตามประสาผู้หญิงน่ะค่ะ ขออธิบายลักษณะห้องก่อน คือเสาต

ตามถึงบ้าน

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว เราอยู่บ้านกับแฟนค่ะ มีอยู่คืนหนึ่ง เรากับแฟนจะไปบ้านเพื่อนกัน เวลาตอนนั้นก็ค่อนข้างดึกแล้ว ก็เดินกันออกมาเพื่อจะไปรอรถที่หน้าปากซอย ซึ่งที่หน้าปากซอยนี้จะมีวัดอยู่ค่ะ ด้วยความที่ดึกแล้วเลยไม่ค่อยมีคน แล้วสักพัก ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมายืนรอรถด้วย ไอ้เราก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อยมีเพื่อน รอไปสักพักใหญ่ ยืนคุยเล่นกับแฟนไปเรื่อย ก็ยังไม่มีรถมาสักคัน พอเราหันไปอีกที ผู้หญิงที่มารอเมื่อกี้เขาไม่อยู่แล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงรอนานเลยกลับไปแล้วมั้ง เราถามแฟนว่า ‘เธอ ผู้หญิงคนเมื่อกี้เขาไปไหนแล้วล่ะ?’ แฟนเราได้ฟังก็เงียบ.. เราก็งงว่าทำไมไม่ตอบ แฟนเราบอกว่า ‘กลับเถอะพลอย มันดึกแล้ว..’ เราก็งงไปอีก แล้วแฟนเราก็โทรไปบอกเพื่อนว่าไม่ไปแล้ว และก็จูงมือเราเดินกลับบ้าน เดินไปได้ครึ่งทางก็คุยกันไปเรื่อยๆ สักพักแฟนเราก็หันหน้าหันหลัง แล้วก็บอกเราว่า ‘อย่าหันไปมองข้างหลังนะ’ เราก็เลยถามว่า ‘ทำไม มีอะไรเหรอ?’ แฟนเราไม่ตอบอะไร เงียบอย่างเดียว เราเลยหันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร ก็งงไปอีก แล้วแฟนก็เงียบไปตลอดทาง จนกลับไปถึงบ้าน เราถามแฟนว่า ‘ตกลงมันมีอะไร?’ แต่

มาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ

รูปภาพ
      ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีได้ สมัยนั้นเรายังเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวต่างจังหวัด เป็นเรื่องปกติที่เด็กทุกคนจะต้องกลัวผี เราเองก็กลัวค่ะ แต่เหมือนว่าเราจะมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นเขา เลยทำให้ต้องเจอเรื่องแปลกๆ อยู่ตลอด คือเราจะมีอาการเหมือนผีเข้าเป็นประจำ เป็นบ่อยๆ ลักษณะอาการคือ อยู่ดีๆ เราก็จะวูบไป ขนลุกไปหมดทั้งตัว และรู้สึกเหมือนมีคนมายืนลูบหลังเราตลอดเวลา ก่อนเราจะหมดสติไป และจำอะไรไม่ค่อยได้ แรกๆ เราเล่าให้แม่ฟังว่าอาการเป็นแบบนี้นะ แม่เรากลับไม่เชื่อ บอกว่าเราคงกลัวผีมาก เลยพูดไปเรื่อยเปื่อย.. แต่พักหลัง อาการเริ่มหนักขึ้น เราเริ่มเดินไปที่ระเบียงเองบ้าง เดินออกไปกลางถนนเองบ้าง บางครั้งก็นั่งร้องไห้คนเดียว โดยทั้งหมดที่ว่ามานั้น เราไม่รู้สึกตัวเลย จะมีคนมาดึงเราไว้ทันเสมอ.. จนแม่เราเริ่มเชื่อขึ้นมาบ้าง พาเราไปหาคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ไปทำพิธีปัดรังควาน เป็นพิธีที่เอาเรามาพันสายสิญจน์ แล้วคนแก่ก็จะสวดมนต์ ท่องคาถา แล้วพรมน้ำมนต์ใส่เรา แรกๆ ก็อาการดีขึ้นบ้าง แต่พอสักพักก็เป็นใหม่ ชีวิตเราวนเวียนอยู่กับการทำพิธีกรรมแบบนี้เป็นปีๆ จนมีวันหนึ่งเราไปเล่นที่บ้านเพื่อน ซึ่งห่างจากหมู่บ

กลัวจนไม่กล้ากลับมานอนที่ห้อง

รูปภาพ
      เมื่อปี 10 ปีก่อน เราได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อยู่แถวด้านหลังสนามกีฬาหัวหมากค่ะ ที่ร้านนี้จะมีที่พักให้พนักงานเช่าอยู่ด้วย คือจะเป็นตึก 7 ชั้น 3 ชั้นแรกเป็นร้านอาหาร ชั้นบนที่เหลือจะทำเป็นห้องพัก และสต๊อคของค่ะ เราได้อยู่ชั้น 7 โดยชั้นนี้จะมีพี่ดี้ พี่ที่ทำงานอีกคนอยู่ด้วย แต่อยู่กันคนละห้องนะคะ.. พอขึ้นไปข้างบนครั้งแรก มันดูรกๆ อึดอัด มีฝุ่น และเศษปูนที่เขาทุบทำห้อง บอกตรงๆ ว่าไม่น่าอยู่เลย เราจะนอนช่วงเกือบตี 3 – บ่าย 2 โมง แล้วออกไปทำงานตอนเย็นถึงดึก วันแรกไปถึงเราก็พนมมือไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทาง บอกว่าลูกมาขอพักอาศัย มาทำงานหาเงินส่งกลับบ้าน แล้วก็นอนด้วยความง่วง และเพลียจากการเดินทาง กำลังจะเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงคนมากระซิบข้างๆ หูว่า ‘ล็อคประตูหรือยัง?’ เราตกใจสะดุ้งขึ้นมา รีบไปจับที่ประตูดูทันที ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อคจริงๆ ค่ะ เราก็แบบเหวอเลย แต่คิดในแง่ดีว่าอาจจะเป็นเจ้าที่มาเตือนก็เป็นได้.. มาถึงคืนที่ 2 เราฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนที่ประตูห้อง พยายามจะเปิดประตูเข้ามาในห้อง คือมันเป็นฝันที่เหมือนไม่ใช่ความฝันน่ะค่ะ

เราอยากให้เธอมาอยู่ด้วย

รูปภาพ
      เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนะครับ วันนั้นผมเพิ่งเลิกงานจากการทำโอทีในวันหยุด ผมกับเพื่อนๆ พี่ๆ ก็ไปนั่งดื่มกินกันต่อ ผมดื่มเบียร์ไป 2 แก้ว โดยที่วันนั้นเป็นวันพระใหญ่ แต่ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยลบหลู่นะครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า พอกินกันเสร็จดึกดื่น ผมได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปส่งรุ่นพี่คนหนึ่งที่บ้าน แถวๆ ปทุมธานี เป็นซอยลึกเข้าไปพอสมควรครับ พอส่งเสร็จเรียบร้อย ระหว่างที่ผมขี่รถกลับออกมานั้น ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาตัดหน้ารถผม รถผมเป็นบิ๊กไบค์นะครับ ผมก็เบรคอย่างแรง เรียกว่าอีกนิดเดียวจะชนอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นเธอหันหน้ามาทางผม พอเห็นปุ๊บผมจำเลยว่าเป็นคนรู้จัก เธอทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งซึ่งผมเคยไปเที่ยว และเธอก็เคยมานั่งบริการผม แต่สิ่งที่ผมเห็น บนหน้าเธอนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ผมเลยถามไปว่า ‘ดึกแล้ว วันนี้วันเข้าพรรษาน่าจะหยุดไม่ใช่เหรอ?’ เธอตอบกลับมาว่า ‘หนูเพิ่งเลิกกับแฟน..’ สภาพที่ผมมองเธอรวมๆ แล้ว หน้าจะมีการใช้กำลังด้วย ดูเขียวช้ำเป็นจ้ำเต็มไปหมด ผมเลยให้เธอขึ้นซ้อน เพื่อจะได้พาไปส่งที่ห้อง เธอยิ้มให้ผมก่อนจะขึ้นมาซ้อนครับ พอถามเส้นทา

เพราะเป็นคนธรรมะธรรมโม

รูปภาพ
      ตอนเด็กๆ เราจะเป็นคนธรรมะธรรมโม มักจะได้ไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมกับคุณแม่อยู่เสมอ.. มีอยู่ช่วงหนึ่ง มีคนขับรถมาชนหน้าบ้านเรา โดนศาลพระภูมิด้วย แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่หลังจากนั้น ในเย็นวันถัดมาเองค่ะ ประมาณ 6 โมงเย็น มีอุบัติเหตุร้ายแรงมาก เราได้ยินเสียงดัง ‘โครม!’ มาจากไกลๆ เหมือนมีอะไรชนกัน ตามมาด้วยเสียงคนแถวบ้านเราตะโกนว่า ‘คนถูกรถชนๆ’ เราได้ยินก็รีบออกไปดูสิคะ เห็นไกลๆ คือเป็นลุงคนหนึ่ง น่าจะข้ามถนนแล้วถูกรถชน แต่ยังไม่ตายค่ะ ลุงแกลุกขึ้นมา แต่รถที่ตามมาไม่เห็น ก็เลยชนซ้ำไปอีกครั้ง แกก็พยามยามจะคลานออกจากถนน แต่เหมือนจะไม่มีใครช่วยอะไรลุงแกได้ทัน เพราะรถที่ตามหลังมาอีกหลายคันนั้น ชน และลากแกมาถึงหน้าบ้านเรา.. น้าเรารีบพาเราเข้าบ้านไปขังไว้ ไม่ให้ยืนดูศพที่หน้าบ้าน แต่ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ เราเห็นไปแล้ว เรียกว่าตาจ้องตาเลยทีเดียวล่ะค่ะ ศพลุงที่ถูกลากมาประมาณ 500 เมตร คงไม่ต้องอธิบายว่าสภาพเป็นยังไงนะคะ ภาพนี่ติดตาเรามาก คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลยล่ะค่ะ แค่หลับตาก็เห็นภาพศพลุงลอยมาเลย ผ่านไป 1 สัปดาห์ ตอนประมาณ 6 โมงครึ่ง แม่เราไม่อยู่บ้าน เรานั่งตัดเล็บรอแม่อยู่หน้าบ้านคนเ

ฝันเห็นเหมือนกัน

รูปภาพ
     เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยผมเรียนอยู่ปี 1 ผมอยู่หอพักครับ ตอนนั้นผมได้คุยเฟสบุ๊คกับผู้หญิงคนหนึ่ง คุยกันมาได้ 5 เดือน โดยที่ยังไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย ผมรู้สึกชอบเธอมากๆ เลยขอนัดเจอเธอครับ เธอก็ดูอยากเจอผมเหมือนกัน เลยถามว่าผมพักอยู่ที่ไหน? เธอจะมาหาผมเอง ผมก็บอกที่อยู่ และเลขห้องไป แล้วเธอก็บอกว่าจะมาหาผมวันพรุ่งนี้เลย รุ่งขึ้นผมก็รอครับ รอจนมืดเธอก็ยังไม่มา โทรไปก็ไม่มีคนรับ ทักเฟสไปหาเธอก็ไม่ออน ผมเลยเสียความรู้สึกครับ.. ผ่านไป 1 อาทิตย์ ผมก็ยังทักเฟสไปทุกวัน แต่เธอก็ไม่เคยออนเฟสเลยตั้งแต่วันนั้น โทรไปก็ไม่มีคนรับสายสักครั้ง.. กลางดึกของอาทิตย์ที่ 2 ผมนอนหลับอยู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าห้อง ผมเลยลุกไปดูที่รูตาแมว ก็ไม่เห็นมีอะไร เลยเปิดประตูออกไปดู ผมเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆ ตกอยู่ที่หน้าห้องผม พอหยิบขึ้นมาดู ในกระดาษใบนั้นเขียนที่อยู่ และเลขห้องของผม แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร รู้สึกงงมากกว่า..วันต่อมาครับ ผมกลับจากมหาวิทยาลัยประมาณ 5 โมงเย็น ก็ไปกินข้าวกันกับเพื่อนๆ ตามปกติเหมือนทุกวัน ไปกินกัน 3 คน แต่แม่ค้ากลับเอาจานกับแก้วมา 4 ชุด ผมกับเพ

ฝันที่เป็นจริง

รูปภาพ
      เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เราเป็นคนที่เหมือนจะมีเซ้นส์มาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัวเรามีอาชีพรับส่งคนกลับบ้าน มีทั้งคนเป็นที่ใกล้ตาย รวมถึงคนที่ตายแล้วด้วยค่ะ คล้ายๆ กับป่อเต๊กตึ๊ง แต่ต่างกันตรงอันนี้จะส่งกลับบ้านค่ะ ตามความเชื่อว่าการเอาคนป่วยกลับไปสิ้นลมที่บ้าน จะทำให้ดวงวิญญาณเขาอยู่ที่บ้าน ไม่ติดอยู่ที่โรงพยาบาล เหตุการณ์ของเราเกิดขึ้นในคืนหนึ่ง ที่พ่อแม่เราต้องไปส่งคนป่วยใกล้สิ้นลมกลับบ้านตามปกติ เราก็อยู่บ้านกับน้อง และเข้านอนกันก่อนที่พ่อแม่จะกลับบ้าน.. กลางดึกคืนนั้นเองเราก็ฝันค่ะ ว่ามีคนมาเคาะประตูบ้าน พอเราไปเปิดดู ก็เห็นเป็นผู้ชายแก่ๆ ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสามส่วนพริ้วๆ แบบคนแก่ทั่วไป แต่ไม่ใส่รองเท้า เท้าแกมอมแมมเต็มไปด้วยเศษดิน เราเห็นก็กลัวเลยดึงประตูกลับ แต่เขาก็ดึงไว้และบอกว่า ‘ช่วยหน่อย..’ ในฝันเรากลัวมากๆ เราเลยรับปากไปว่าจะช่วย ‘จะให้ช่วยอะไร?’ เขาก็บอกว่า ‘รองเท้า อยากได้รองเท้า’ ไอ้เราก็งงว่ารองเท้าอะไร? แล้วเราก็ตื่นขึ้นมา ตอนเช้ามา เราเลยลองถามพ่อกับแม่ว่า ‘เมื่อคืนไปส่งคนเป็น หรือคนตายมา?’ แม่บอกว่า ‘คนเป็น.. ทำไมเหรอ?’ เราก็เลยบอกว่า ‘เป็นผู้ชายแก่ใส่

กลัวการนอนหลับ

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว ครอบครัวเราเป็นคนต่างจังหวัด แต่ได้ย้ายมาเปิดร้านอาหารอยู่ในจังหวัดอยุธยา เลยจำเป็นต้องหาบ้านเช่าอยู่ใกล้ๆ กับร้านค่ะ ก็ได้ไปเจอบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะเป็นทาวน์โฮม 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องนั่งเล่น มีลานหน้าบ้านกว้างพอสมควร ประกอบกับสภาพบ้านที่ดูใหม่ ที่บ้านเราเลยรีบติดต่อเจ้าของบ้านเพื่อทำสัญญาทันที โดยที่ไม่ได้ถามรายละเอียดของบ้านเลย เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ได้เพียง 3 อาทิตย์ค่ะ เวลานอนๆ อยู่ เรามักจะได้ยินเสียงตู้เสื้อผ้ามันลั่นเองอยู่บ่อยๆ ‘เอี๊ยด..อ๊าด’ ดังมาจากข้างใน บางครั้งก็ได้ยินเสียงมาจากด้านบนของตู้ เหมือนมีคนไปเหยียบ หรือนั่งทับ ซึ่งตู้ใบนี้ยังดูใหม่มากๆ ตอนแรกเราก็คิดในแง่ดี ว่าอาจจะมีหนู หรือไม้อาจบวมเลยมีเสียงขึ้นมาก็ได้ เรื่องเสียงจากตู้ก็ผ่านไป แต่มันก็ยังคงดังอยู่ทุกวันนะคะ วันละ 3-4 ครั้ง.. จนมันมีเหตุการณ์แปลกๆ ภายในบ้านที่หนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างชักโครกเริ่มกดเองได้ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ ประตูห้องครัวเปิด-ปิดได้เองโดยไม่มีลมพัด หรือบางครั้งเราเห็นเป็นเงาคนเลยค่ะ เคลื่อนไหววูบไปมาที่หางตา พอหันไปก

ตัวตายตัวแทน

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหาคร วันที่เกิดเรื่อง เราขึ้นเวรควบ บ่าย-ดึก คือตั้งแต่เวลาบ่าย 3 โมงถึง 7 โมงเช้าของอีกวันค่ะ เราจะอยู่ที่ชั้น 4 ตามปกติ พอช่วงประมาณ 6 โมงเย็น ก็มีคนไข้ผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วยอาการท้องเดิน อาการไม่หนักเท่าไร แต่หมอสั่งให้แอดมิทหนึ่งคืนเพื่อสังเกตุอาการ.. พอดีว่าวันนั้นคนไข้เยอะมาก เตียงไม่ว่างเลย เหลือแค่เพียงเตียงเดียวคือเตียง 2 ของห้องรวมห้องหนึ่ง (ห้องรวมของโรงพยาบาลจะมี 4 เตียง) แต่เรื่องของเรื่องคือ เตียง 2 นี้ คนไข้เพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ตามกฏของโรงพยาบาล จะต้องพักเตียงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคนไข้เสียชีวิต แต่วันนั้นเตียงเต็มจริงๆ เลยจำเป็นต้องใช้เตียงนั้น คนไข้ผู้หญิงคนดังกล่าวดูร่าเริงดี มีอาการเจ็บช่องท้องปวดเป็นพักๆ สรุปคืออาการไม่หนัก มีสามีมาคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี มาถึงเวลา 5 ทุ่ม ต้องให้ยา เธอก็ยังคงปกติดีอยู่ค่ะ.. จนมาถึงเวลาตี 2 บรรยากาศกำลังเงียบ อยู่ๆ เสียงออดก็ดังขึ้นมาจากที่เตียง 2 ห้องรวมนั่นเอง เรากับพี่ที่ขึ้นเวรด้วยกันรีบเดินไปดู ปรากฏว่

ยอมเดินอ้อม

รูปภาพ
     เราเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ที่โรงมัธยมประจำอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา วันที่เกิดเหตุนั้น เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นานนี้เอง จำได้เลยว่าเป็นวันศุกร์ หลังจากเราเรียนคาบเช้าเสร็จ ก็จะเป็นเวลาพักเที่ยงค่ะ เพื่อนๆ รวมถึงนักเรียนทั้งโรงเรียน ต่างพากันไปกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารกันหมด แต่ตอนนั้นเราเกิดปวดท้องอยากถ่ายหนักขึ้นมานี่สิ และเราเป็นคนที่เข้าห้องน้ำนานมากๆ จะให้เพื่อนๆ อยู่รอก็เกรงใจ เลยบอกพวกมันไปว่า ‘พวกมึงไปกินข้าวกันก่อนเลย กูว่ากูนานว่ะ..’ แต่เพื่อนๆ เรามันบอกว่า ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อขนมมากินรอข้างล่างแล้วกันนะ จะได้ปั่นการบ้านไปด้วย..’ คือตอนนั้นเราปวดมากจะไม่ไหวแล้ว ฟังเพื่อนไม่ค่อยรู้เรื่องละ เลยตอบเออออไป ก่อนจะวิ่งไปหาห้องน้ำเข้า อาคารที่เราเรียน เป็นอาคาร 3 ชั้น ตอนนั้นเราเรียนชั้น 2 เราเลยรีบบึ่งไปเข้าห้องน้ำของชั้น 2 ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห้องน้ำที่เราไปเข้านั้น เป็นห้องน้ำสำหรับอาจารย์ผู้ชายค่ะ เนื่องจากเราจะไม่ไหวอยู่แล้ว เลยเอาวะ! ประกอบกับตอนนั้นบนอาคารก็ไม่ค่อยมีคนแล้วด้วย พอเข้าไป เรารีบเข้าห้องแรกสุดเลย เป็นห้องที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า พอได้นั่งเราก็เต็มที่เลยค่ะ.. น

ความง่วงชนะความกลัว

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว วันนั้นครอบครัวเราเกิดอยากจัดทริปไปทะเลแบบปุ๊บปั๊บขึ้นมา ก็ออกจากบ้านไปกันเลยตอนราวๆ 5 ทุ่ม ไปพัทยาค่ะ ไปถึงพัทยาประมาณตี 1 ก็ไปเช่าห้องพักริมทะเลที่หนึ่ง (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ) ราคาไม่แพง ติดทะเล แต่สภาพห้องก็ตามราคา เราก็ไม่ได้คิดไร เพราะว่าใช้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่นั่งคุย นั่งเล่นริมทะเลจนถึงตี 3 ก็เริ่มง่วงกัน เลยเข้าห้องไปนอน แล้วเรื่องมันก็เกิดตอนที่เรากำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นนี่ล่ะค่ะ ตอนนั้นในห้องเงียบสนิท มีแค่เสียงลมเสียงคลื่นเบาๆ แต่เรารู้สึกเหมือนมีคนเดินไปเดินมาในห้องแถวๆ ปลายเตียง เลยลืมตาขึ้นมาดู และก็เป็นจริงอย่างที่รู้สึกค่ะ เพราะเราเห็นเป็นเงารูปร่างผู้ชายเดินไปมาอยู่ ทีแรกก็คิดว่าคงเป็นพี่ชายเราเอง เลยชะโงกหัวขึ้นดูนิดนึง แต่กลับไม่ใช่ เพราะทุกคนนอนหลับกันอยู่ครบ แล้วเหมือนว่าเงานั้นเขาเห็นเราลุกขึ้นมอง ก็เลยจะพุ่งมาหาเรา แต่เหมือนเขาเข้ามาไม่ได้ เลยถอยไป แต่ตอนนั้นบอกเลยว่าเราง่วงมากกว่ากลัว และคิดว่าคงจะกำลังฝันอยู่ เราล้มตัวลงนอนต่อ และสิ่งสุดท้ายที่เราเห็นก่อนจะหลับคือ ผู้ชายคนนั้นกำลังดึงขาพี่ชายเราอยู่ ..แล้วเราก็ห

รีบคลุมโปงอย่างไว

รูปภาพ
    ผมกับเพื่อนๆ ได้มารวมตัวกันที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตพระประแดง-ประชาอุทิศ นี่เองครับ พวกผมมีกันอยู่ 6 คน คืนนั้น ช่วงเวลาตี 1 กว่าๆ ผมกับเพื่อนๆ ก็ชวนกันออกไปปากซอยหาซื้อของกิน และบุหรี่ คืนนั้นป็นคืนเดือนมืดครับ ในซอย และบ้านแต่ละหลังปิดไฟนอนกันหมดแล้ว ระยะทางกว่าจะไปถึงร้านค้าปากซอยค่อนข้างไกลพอสมควร พอเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสะพานครับ เป็นสะพานที่ค่อนข้างสูง ตอนนั้นไม่มีรถหรือคนเดินเลย ทันใดนั้นเอง เพื่อนผมคนหนึ่งที่ชื่อ เบ่ม ก็เห็นอะไรบางอย่าง ลักษณะเหมือนกับผู้หญิงนุ่งผ้าถุงยืนอยู่บนสะพาน ตรงที่พวกผมกำลังจะเดินผ่านครับ ด้วยความที่ค่อนข้างมืด เลยไม่มีใครทันสังเกตุ แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ กลับพบว่า ผู้หญิงที่ยืนอยู่นั้นไม่มีหัวครับ! เห็นกันทุกคน พวกผมรีบวิ่งผ่านผู้หญิงคนนั้นไปแบบไม่มีรอกันเลย วิ่งไปร้องโวยวายกันไปลั่นซอย พอผ่านไปได้สักประมาณ 200 เมตร ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านเรือนไทยเก่าๆ หลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว และเท่าที่ผมจำได้ เมื่อหลายปีก่อน เจ้าของเดิมเป็นตายายอยู่กันแค่ 2 คน และได้หายตัวไปจากบ้านหลังนี้ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าหายไปไหนนะครับ พอผมคิด

วิญญาณตามพ่อ

รูปภาพ
     เป็นเรื่องของพ่อแม่เราเองค่ะ ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2549 เป็นปีที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่มที่อำเภอลับแล ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากค่ะ ด้วยความที่พ่อเราเป็นคนทำงานรับเหมา ต้องไปทำการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่ชำรุดในที่ต่างๆ และได้ไปทำที่อำเภอลับแลด้วยเช่นกัน หลังจากพ่อทำงานกลับมา พ่อกับแม่ก็เข้านอนตามปกติ แต่คืนนั้นแม่เรานอนไม่หลับ มีความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ ไม่สบายใจแปลกๆ พอนอนไปอีกสักพัก แม่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ค่ะ ดังมาจากข้างล่างทางหน้าบ้าน แม่เราเลยเปิดหน้าต่างมองลงไปหาต้นเสียง ก็เห็นเป็นผู้หญิงผมสั้น ใส่ชุดคลุมท้องสีขาว กำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้าน แม่เรารู้ทันทีเลยว่าโดนแล้วแน่ๆ เพราะตอนนั้นเวลาตี 3 ละแวกบ้านเราก็เปลี่ยวๆ ไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงมานั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่แน่ๆ แม่เราเลยปลุกพ่อให้ช่วยลงไปเอาสร้อยพระมาห้อยคอ หลังจากนอนไปได้อีกสักพัก แม่ก็ได้ยินเสียงอีกค่ะ คราวนี้เสียงเหมือนคนเอามือมาข่วนไม้ บ้านเราเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ค่ะ ด้วยความที่แม่เราอยากรู้ เลยลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างด