บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2019

ผีต้องการเซกส์

รูปภาพ
      เราเป็นผู้หญิงนอนหอพัก อพาร์ทเม้นท์เพียงคนเดียว ปกติเป็นคนไม่ค่อยกลัวอะไร และโดนผีอำบ่อย เกือบทุกครั้งแต่ก็ไม่ได้หนักเท่าตอนนี้ ปกติจะโดนอำแบบว่า แค่โดนนอนทับ ตัวชา อ้าปากพูดไม่ได้ ตัวแข็งเป็นหิน บางครั้งโดนอำแบบว่าเหมือนมีคนมาดึงลากจากที่นอน เหมือนโลกหมุน และบางครั้งเหมือนโดนผีเล่นหัว และกดหัวเราไม่ให้เราลุกตื่นขึ้นมาเพื่อมันจะให้เราโดนมันแกล้ง แต่แค่นี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรค่ะ ยังถือว่าเป็นปกติ แต่มีอยู่คืนหนึ่ง เรื่องที่จะเล่าโดนผีหื่นอำ  เรื่องมีอยู่ว่ากำลังนั่งทำงานช่วงกลางดึกและรู้สึกเหนื่อยมาก นั่งทำไปถึงจนกระทั่งตี 4 รู้สึกเหนื่อยมาก เลยนอนพัก แค่หลับตา พอนอนไปได้สักพักรู้สึกว่าตัวเริ่มชาและขยับตัวไม่ได้ ช่วงนั้นไม่ได้หลับ แต่แค่หลับตาเฉยๆ รู้สึกตัวและมีสติตลอดเวลาถามว่ากลัวไหม ไม่ได้กลัวนะ เราเป็นคนจิตแข็งอยู่แล้ว….ตอนนั้นเห็นว่า ผี เป็นผู้ชาย เป็นเงาดำๆ อยู่ตรงหน้านั่งค่อมอยู่บนตัว ตอนนั้นหายใจไม่ค่อยออก อ้าปากพูดไม่ได้ แม้แต่จะออกเสียงก็พูดไม่ได้….รู้สึกว่าผีที่มาอำ มีเสียงหายใจที่ต้นคอ ข้างๆหูได้ยินชัดมาก เหมือนคนมานอนหลับข้างๆเป็นผู้ชาย เพราะเสียงค่อนข้างใหญ่น่ากล

เหตุเพราะไม่ได้เช็คประวัติ

รูปภาพ
      หลายคนคงเคยได้ยินข่าว ว่ามีโรงแรมเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้แถวหาดจอมเทียน แต่เนื่องจากผมไม่รู้ประวัติโรงแรมนี้มาก่อน และจำเป็นต้องจองโรงแรมเร่งด่วนเพราะเพื่อนดันอารมณ์ติส อยากจะไปเที่ยวทะเล เลยเข้า agoda ก็ได้โรงแรมนี้มา พอไปถึงก็ check in ตามปกติ ได้ประมาณชั้น 10 หรือ 12 นี่แหละ ไม่แน่ใจ เดินขึ้นห้องก็ไมคิดอะไรเพราะไม่รู้ประวัติ แต่สังเกตุว่าโรงแรมด้านในดูเงียบสงบดีค่อนข้างชอบ ห้องที่ได้ก็อยู่ก่อนถึงประตูหนีไฟ มีห้องคั่นกลาง 1 ห้องไม่มีระเบียงแต่มีกระจกใสมองเห็นบรรยากาศภายนอก ทุกอย่างดูลงตัว จากนั้นก็ออกไปทานข้าว กลับมาจะเล่นน้ำที่สระ แต่สระดันปิดตอน 18.00 ก็งงๆว่าทำไมปิดเร็ว พอ 1 ทุ่ม ยามก็เริ่มไม่มี แม่บ้านที่ล๊อบบี้ก็เริ่มหาย พนักงานหายเกือบหมดแต่ก็ยังคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติเค้าคงเลิกงานกันเร็ว คืนนั้นเข้านอนประมาณ 4 ทุ่ม หลับไปได้สักพักก็เริ่มได้ยินคนเดินผ่านหน้าห้อง บางคนก็วิ่ง บอกเลยว่าวิ่งกันทั้งคืนก็ยังสงสัยคิดว่าเป็นทัวร์จีน คงจะมาเข้าพักกลางดึก ไม่หมดแค่นั้น ไม่นานเริ่มมีคนเคาะกระจก ขอย้ำว่ากระจกที่ว่านั้นด้านนอกไม่มีระเบียงนะ คราวนี้ก็รู้เลยว่าตัวเองโดนอะไร เตียงนอนที่นอ

เจออย่างนี้ นิ่งทั้งก๊วน

รูปภาพ
      ผมเป็นนักศึกษาครับ เคยเข้าไปช่วยงานอาจารย์ทำข้อมูลสำรวจปรับระดับรันเวย์ ทั้งหมดทำงานตอนกลางคืน (เพราะเครื่องขึ้น-ลงน้อย) ต้องใช้บัตรไรเยอะแยะ เรื่องราวเยอะมากครับ เพราะมันมืดดดด มากกกๆ ประมาณสองสามวันแรกนี่แหละ ทำงานกัน ฝนตกหนักครับ เพื่อนผมคนหนึ่งรับหน้าที่ขับรถคอยส่งอุปกรณ์แต่ละจุด กล้องสำรวจไรงี้ขับรถเข้ามาจะมาหากลุ่มเพื่อน (ใส่เสื้อสะท้อนแสง) ก็เห็นกัน 4 คนครับ ปรากฎพอเข้ามา เพิ่งรู้จริงๆ กลุ่มนั้นมีกันแค่ 3 คน  อีกคนใครไม่รู้หรือถ้าใครเรียนวิศวกรรมโยธา หรือสำรวจจะรู้จักกล้อง Total station ตอนนั้นส่องไปที่ Staff ทำงานตอนกลางคืนก็ต้องใช้ไฟฉายชี้เข้า Staff ให้เห็นตัวเลขครับปรากฎพอส่องกล้องไป มีเงายืนบัง Staff ก็วอไปบอกเพื่อนที่ถือ Staff ว่า“เห้ย บอกอีกคนดิอย่ายืนบัง Staff ส่องไม่ได้” เพื่อนวอกลับมา “บังบ้าอะไรกูยืนอยู่คนเดียว..”แค่นั้นแหละครับ นิ่งกันทั้งก๊วน บอกเลยว่าโหดจริงๆ ไปทำงานมาสามอาทิตย์จะเลิกโปรเจคตั้งแต่ 3 วันแรก เหตุเพราะกลัวผี จะเข้าทีไรรู้สึกแย่ๆ ทุกที

ฝันเป็นจริง

รูปภาพ
     บ้านของอุ๊อยู่ที่เขตห้วยขวาง เป็นบ้านชั้นเดียว คือหลังบ้านจะเป็นระเบียงไม้ ยื่นลงไปในคลองลาดพร้าวเลย , , , บ้านนี้อุ๊อยู่กับสามีมาเป็นสิบปีแล้ว และตอนนี้สามีของอุ๊ก็เสียไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเลย.. จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง อุ๊ป่วย เป็นไข้หวัดธรรมดา ก็ได้ไปหาหมอที่คลินิค และได้ยามาทาน ก็จะมียาแก้หวัดที่ทำให้ง่วงนอนอยู่บ้าง ทำให้ช่วงนั้นอุ๊ต้องนอนพักผ่อนมากกว่าปกติ..คืนหนึ่งก็ฝันแปลกๆ ว่ามีชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีดำ สภาพเปียกน้ำโชกไปทั้งตัว มายืนหน้าเตียง มองมาที่อุ๊ โดยที่ด้านหลังชายคนนั้น เป็นนาฬิกาติดผนังบอกเวลา 05:20 และจากนั้นชายคนนั้นก็เดินไปทางหน้าต่าง แล้วก็หายไปเฉยๆ ตอนนั้นอุ๊ก็ตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา หัวใจเต้นแรงเลย พอมองไปที่ผนังหน้าเตียง ก็เห็นนาฬิกาเป็นเวลา 05:19 ก็ไม่ได้คิดอะไร จึงเดินไปเข้าห้องน้ำพอเดินกลับมาจากห้องน้ำ อุ๊ตกใจกลัวมาก เพราะตรงพื้นที่หน้าเตียงอุ๊ มีน้ำเปียกอยู่เต็มไปหมด และที่นาฬิกาก็เป็นเวลา 05:20 นาทีเหมือนในฝันเมื่อกี้.. จากนั้นอุ๊ก็ออกจากบ้านไป และโทรหาเพื่อนข้างบ้าน โดยที่ไม่เกรงใจเวลานอนเลย เพราะตอนนั้นกลัวมากๆ พอออกไปที่ระเบียงหลังบ้านที่ติดก

โดนคนแรกเลย

รูปภาพ
      ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 17 ปีก่อน ผู้ปกครองผมได้นำ ชื่อ วัน/เดือน/ปี เกิดของทั้งบ้านไปให้หมอดูที่จังหวัดสุพรรณบุรีทำนายดวงให้ ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมนั้นคือ ต้องยกผมเป็นลูกบุญธรรมให้ใครสักคนหนึ่ง ซึ่งผู้ปกครองผมได้เลือกบุคคลที่นับถือในการยกผมให้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าธรรมเนียมการยกเป็นลูกบุญธรรมนั้นต้องทำอย่างไร จึงเตรียมแค่ พวงมาลัย ธูปเทียนแพ ไปขอแค่นั้น ณ เวลานั้นด้วยความที่ไม่รู้จึงคิดว่าเป็นอันเสร็จพิธีกรรมจวบจนกระทั่งผม อายุได้ 18 ปี  ผมสอบเข้าได้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ในชั้นปีที่ 1 ต้องไปเรียนที่จังหวัดนครนายก 1 ปี ขณะที่ย้ายของเข้าหอพักนั้นยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะทุกคนต่างขนของเข้าหอกัน เป็นคณะๆซึ่งคณะผมเป็นกลุ่มคณะที่ 2 ในการย้ายเข้า ทำให้มีนิสิตเข้ามาอยู่พอสมควรในช่วงพลบค่ำ เมทผมเริ่มทยอยเข้าห้องพัก แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่รุ่นพี่ได้เล่าสู่บ้าง เล่าว่าในชั้นที่ 5 ของหอที่ผมอยู่เป็นไปได้อย่าขึ้นไปเพราะมีคนตาย บ้างก็เล่าว่าอีกหอหนึ่ง มีผีผู้หญิงกระโดดตึกตายและไม่ไปไหน ทุกคืนจะปีนกำแพงและกระโดดลงมาซ้ำๆ(ผมเรียกว่าผีวนลูป) ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพรา

คนที่ขอให้ช่วยมีจริง

รูปภาพ
       เราเจอสมัยเราเรียนมหาลัยปี 3 ค่ะ เค้าจะพาเราไปดูงานแถวๆระยอง ก็จะพาเราเข้าที่พักค่ะ ที่พักเป็นกึ่งๆรีสอร์ทที่เงียบมากๆ เราอยู่กลุ่มสาวๆก็อยู่บ้านหลังหนึ่งค่ะ ห้องหนึ่งจะเป็นเตียงยาวๆ นอนได้ราวๆ 5 คน มีสามชั้นเรานอนชั้นสาม ตอนมาถึงใหม่ๆเราก็แปลกๆละ ดูเก่าๆน่ากลัวๆยังไงไม่รู้ค่ะ ตอนเย็นๆเพื่อนก็พากันเล่นน้ำ มีกิจกรรมนิดหน่อยริมสระ ตกดึกทะยอยเข้านอน  ด้วยความที่เราว่าสถานที่มันแปลกๆอยู่แล้วเราเลยไหว้หัวเตียง“หนูมาดีนะคะ มาดูงาน ช่วยดูแลหนูด้วยนะคะ” แล้วก็นอน พอเคลิ้มๆเท่านั่นแหละภาพตัดไปที่ชั้นล่าง เหมือนเรากำลังฝัน แต่ฝันถึงบ้านที่เราพักอยู่กับเพื่อน เจอผู้หญิงตัวเปียกตั้งแต่หัว จรด เท้า นั่งบนเก้าอี้ไม้แบบที่มีในบ้านนั่นเลยค่ะ โดยขาทั้งสองข้างพาดไปที่เก้าอี้อีกตัวด้านหน้าเค้า เหมือนคนนั่งเหยียดขาตรงๆนะคะ เปียก ชุดเหมือนชุดนอนสีขาวเป็นชุดนอนกระโปรง นั่งก้มหน้าผมยาวปิดหน้า เพราะก้มอยู่เนอะแล้วเราก็ตกใจตื่นค่ะ คือคิดเลยนะว่าใช่แล้วแหละ กลิ้งไปหาเพื่อนนิดนึงแอบกลัว เพื่อนก็ตื่นมาค่ะ ถามว่าเป็นไร เราก็บอกป่าว แล้วข่มตานอนต่อ พอเคลิ้มๆนางมาอีกแล้วที่เดิมมุมเดิม ตื่นอีกค่ะ เป็นแบบน

คืนหลอนเข้าค่ายที่โรงเรียน

รูปภาพ
       เรื่องนี้ได้ยินมาจากรุ่นพี่ที่พี่เค้าเคยเข้าค่ายตอน ม.2ระหว่างที่กำลังทำอาหารสำหรับคนในสี ก็จะมีพวกพี่สตาฟเข้ามาช่วยพวกพี่ๆเค้าอยู่ ม.5 เขาก็จะช่วยทำความสะอาด ตรวจดูบริเวณรอบๆให้ เเล้วก็มีพี่คนหนึ่งตั้งคำถามขึ้นมาว่า“เคยสงสัยกันไหม? ว่าทำไมโรงเรียนถึงไม่ให้นอนบนตึกอาคารเรียน”ทุกคนในสีเราก็หันไปมองพี่เขาหมด เเล้วพี่เขาก็พูดว่า“ความจริงโรงเรียนจะให้นอนที่ชั้น 1 ก็ได้นะ เเต่เขาคงไม่อยากให้นักเรียนกลัว”เพื่อนในสีเราคนหนึ่งก็ทักขึ้นว่า “โหยพี่ พูดขนาดนี้เเล้วก็เล่ามาเถอะค่ะ”พี่เขาก็หลุดขำนิดนึง เเล้วก็เล่าว่า เมื่อก่อนพี่ก็เคยเข้าค่าย ม.2 เเบบน้องนี่เเหละ เเต่ตอนที่ตั้งเต้นท์กันฝนมันดันตกเเล้วดันตกหนักตกนานด้วย ทางโรงเรียนก็เลยเปลี่ยนใจให้นอนบนอาคารเรียนแทนด้วยความที่โรงเรียนมีรูปปั้นอนุสาวรีย์ก็เลยจะให้นอนชั้น 1 เเต่กลุ่มของยุวกาชาดมันเยอะก็เลยให้ปนๆเบียดๆกันนอนในชั้น 1 ให้ได้ เเต่สุดท้ายก็ไม่พอ ก็มีกลุ่มย่อยๆ(รวมถึงพี่คนที่เล่า)ที่ต้องไปนอนที่อาคารเรียน 2 ชั้น 1 เเต่ฝนมันตกหนักมาก เเล้วไม่มีใครพกร่มมาก็เลยต้องไปนอนชั้น 2 เเทน เเล้วในวันนั้นก็เลยไม่ได้มีกิจกรรมรอบกองไฟส่วนอาหา

แอปคู่เกย์

รูปภาพ
       ปกติผมจะมีโปรเเกรมหาคู่เกย์ คือเห็นน้องคนหนึ่งในโปรแกรมนี้แหละครับอายุน่าจะประมาณ26น่าตาดี แต่ก็เห็นหลายวันแล้ว ก็ทักทิ้งไว้พอดีน้องเขาตอบคำถามคำ ก็เงียบไป แล้ววันจันทร์ เขาทักมาหาผมว่า “ดีครับ”ผมเลยตอบกลับไปว่า “วันนี้ทักมาอยากละซิ” ที่จริงคุยหลายประโยคจนผมนัดน้องเขา ขอเบอร์ พิกัดห่างกันก็1ไมล์ ประมานโลกว่าๆ ผมก็ขี่มอไซไปทางที่น้องเขาบอก คือทางมืดมาก เรียกว่าบ้านสายดงยางเข้าไปบ้านสายดงยางประมาน 1กิโลครับ แล้วผมก็จอดรถโทรถามน้องเขาแต่กว่าจะรับ ตัดไปตั้ง2รอบ พอน้องเขารับ เขาบอกให้เข้ามาทางวัดสายดงยางผมก็เออ! ยังพอมีบ้านคน แต่เข้าไปเรื่อยๆมันยิ่งเงียบลง แล้วก็จอดโทรถามน้องเขาอีกทีครับสเต็ปเดิม กว่าจะรับ พอรับน้องบอกให้เลยวัดมาอีกครับ ผมก็ไปเพราะความคันแต่พอถึงหน้าวัดแล้วมันเงีบบมากๆ 4ทุ่มบ้านนอกก็สงัดแล้วอะครับแล้วอีกอย่างถ้าตรงก็เข้าวัด ถ้าไปอีกทางมันก็เลาะรั้ววัด เลยเลือกเลาะไปข้างรั้ววัดซึ่งมันจะโค้งอ้อม วัดมีคลองอยู่ด้านซ้ายบรรยากาศน่ากลัวมาก แต่น้องเขาบอกเลยวัดไปแต่ผมไม่กล้าไปแล้ว หันไปด้านขวา ฮึย!! มันหลังเมรุนี้หว่า ทันใดนั้นแหละผมเห็นเป็น ผู้ชายสูงประมาณ170 หน้าดำๆคล้

อยากเจอผี แต่พอเจอก็ร้องลั่น

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วครับ ตอนนั้นผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ประมาณ ม.ปลายครับ ผมเป็นคนที่เห็นผีบ่อยมาก แต่เพื่อนผมมันไม่เคยเจอผี มันชอบชวนผมไปบ้านร้าง บ้านผีสิงอยู่บ่อย ผมก็ไปด้วย ตอนไปบ้านผีสิงนั้นไม่เจออะไรครับ แต่พอตอนที่กำลังจะกลับ เหตุการณ์ก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...ตามประสาวัยรุ่นครับ ชอบไปตะลุยบ้านผีสิง โดยปกติผมจะไม่ไป แต่เพื่อนผมจะลากจะดึงให้ไปแต่ผมอะไม่อยากไป เพราะอะไรนะเหรอ พวกเมิงไม่เจอนิ แต่กุอะเจอ แต่สุดท้ายผมก็ยอมไปจนได้ ผมจำสถานที่ไม่ได้นะครับแต่เป็นบ้านคนนี่แหละ เป็นบ้านเดี่ยว ทางเข้าเป็นหญ้ารกเพื่อนๆผมก็ถามว่าเป็นไงเห็นไรไหม ผมก็บอกยังไม่เห็นไรนะ (ตกลงเมิงเอากุมาเป็นเรด้าใช่ไหม)ถ้าเมิงเห็นไรอย่าบอกพวกกุนะกุกลัว เฮอะงั้นพวกเมิงกลับเถอะ กลัวแล้วมาทำไมวะ ทุกคนต่างก็เดินกันตรงไปที่บ้านหลังนั้นครับ อืมมมม บรรยากาศวังเวงน่าโดนผีหลอกมากครับแต่สำหรับคนโตมากับผีอย่างผม แค่นี้ยังอ่อน 555 ปากดีครับจริงๆก็เริ่มกลัว พอถึงหน้าบ้าน โหสภาพไม่น่าโดนหลอกแล้วครับ น่าโดนปล

จากที่ไม่เชื่อ

รูปภาพ
       วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...ต้องขอบอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีครับ ถึงจะเคยมาให้เห็นตัวเป็นๆ ผมยังก็ยังคิดว่าคิดไปเอง ตาฝาด จนมีอยู่วันหนึ่งครับ เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่าปักธูป1ดอกแล้วเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ด้วยความอยากรู้อยากลอง ผมจึงไปลองทำตาม และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...ตอนแรกเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เพื่อนผมโดนมาก่อนครับ น้องมายด์ สตรอว์เบอรี่ชีสเค้กเธอเรียนนิเทศอยู่ที่มหาลัยนี้(มหาลัยสวนสุนันทา) ครั้งหนึ่งตอนรับน้องก็ได้ซื้อธูปมากะจะไปไหว้พระนางกัน ระหว่างเดินในช่องทางเดิน (เนินพระนางเก่าจะอยู่หลังตึกนิเทศ ช่องทางเดินที่ว่าจะลอดผ่านตึกนิเทศไปยังเนินพระนาง เด็กนิเทศจะเรียกหลืบนิเทศ)เพื่อนมายด์เค้าก็จุดเทียนขึ้นมาลอง 1 ดอก มายด์เป็นคนเหม็นธูปก็เลยโวยวาย ก่อนจะดึงธูปในมือเพื่อนมาปักลงดินที่หน้าเนินพระนาง มายด์เล่าให้ฟังว่าทันทีที่ปักธูปลมพัดแรงมาก พัดแรงปานพายุ จนเพื่อนๆต้องรีบขอขมาแม่กันยกใหญ่ ผมมีโอกาสได้ไปลองทำเลียนแบบเรื่องนี้มาครับ เวลาประมาณ 4 ทุ่มเกือบๆ 5 ทุ่ม จะเจ

ไม่ใช้ลิฟท์คนเดียวอีกต่อไป

รูปภาพ
     วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 6-7 ปีก่อน ตอนนั้นแฟนผมปวดท้องหนักครับ ได้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คืนแรกก็ผ่านไปด้วยดีครับ ไม่ได้เจออะไร แต่ผมเป็นที่ติดบุหรี่หนักมาก ก็มักจะไปสูบบุหรี่ วันแรกที่ผมสูบ ผมได้ลงลิฟท์ไปที่ชั้น2 ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัวมาก จึงไม่ลงไปอีก แต่ความอยากบุหรี่มันก็มาอีกแล้วครับ ผมจึงแอบไปสูบตรงบันไดหนีไฟ นั่งสูบไปได้ไม่นาน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...คือตอนนั้นแฟนผมท้อง  ก็พักฟื้นที่ห้องพิเศษ ที่ชั้น4 แต่ผมเป็นคนติดบุหรี่ จัด จึงชอบ กดลิฟท์ ลงมาสูบที่ชั้น2 บ่อยๆจนวันที่2 ผมก็ทำแบบเดิมอีก แต่พอตอนขากลับนี่สิครับ ผมก็ขึ้นลงคนเดียวปกติไม่มีอะไรพยายามไม่นึกถึงผี ตอนนั้นผมก็กด ที่ชั่น4 ในลิฟท์มีผมคนเดียวแต่จู่ๆลิฟท์กลับจอดที่ชั้น2 ไอ้เราก็นึกว่ามีคนกด ก็ไม่เอะใจอะไรแต่พอเปิดแค่นั้นแหละ เชี่ยแม่รง!!! ปิดแทบไม่ทัน  ทั้งชั้นปิดไฟมืดหมดไม่มีแม้แต่ไฟทาง แล้วใครมันจะกด ขึ้นมาได้ก็นั่งคิดอยู่นานว่าหรือจะมีคนกดแต่ลิฟท์อีกฝั่งหนึ่งเปิดเลยขึ้นไปก่อน

เกือบเป็นเหยื่อ

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่นานมากแล้ว พวกคนขับ 10 ล้อจะรู้กันดี ถ้าชับผ่านป่าดงพญาเย็นให้รีบเหยียบขั้นเร่งให้สุด แล้วอย่าจอดเด็ดขาด วันหนึ่งมีคนขับสิบล้อคันหนึ่งต้องขับผ่านเส้นทางนั้น แต่ขับมานานมากแล้ว เริ่มรู้สุกเพลียและง่วงมาก จึงให้เด็กติดรถมาขับแทน โดยกำชับว่าอย่าจอดเด็ดขาด ไม่ว่าจะเจออะไรก็ห้ามจอม เด้กติดรถก้ได้ขับไปสักพักหนึ่ง เข้าเขตป่าแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...เป็นเรื่องเล่าในหมู่สิบล้อสมัยถนนมิตรภาพตัดผ่านป่าดงพญาเย็นใหม่ๆ เตือนกันนักเตือนกันหนาว่าใครขับกะกลางคืนผ่านดงพญาเย็นให้รีบขับ ห้ามแวะที่ไหน จะปวดหนักปวดเบาให้อดทนไว้เห็นอะไรให้มองผ่านมองข้ามไป ท่องไว้ในใจ ไม่ใช่เรื่องของตน ครั้งหนึ่งคนขับขับมาไกลเหนื่อยก่อนจะเข้าเขตป่าเลยให้เด็กติดรถมาช่วยขับกำชับอย่างดีว่าไม่ให้จอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคนขับกำลังจะหลับรู้สึกตัวว่ารถเบรคชลอทำท่าจะหยุดนึกขึ้นได้รีบตะโกนถามเด็กรถ“จะจอดรถเหรอ เลยเขตป่าหรือยัง”เด็กรถตอบกลับว่า “พี่ๆผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มายืน

คุณตายิงเสือสมิง

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตอนนั้นคุณตาของผมได้ไปเป็นพรานป่า ล่าสัตว์ วันหนึ่งคุณตาของผมได้เข้าป่าไปล่าสัตว์ตามปกติ แต่ได้เจอพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดแถวๆนั้น คุณตาเลยเดินนมัสการและชวนพระธุดงค์รูปนั้นคุย และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...คุณตาผม หลังจากเกษียณอายุราชการจากตำรวจ ท่านก็ไปเป็นพรานอยู่ที่แถบระนอง ตาก และกาญจนบุรี เพราะด้วยความที่เป็นคนชอบเดินป่า ล่าสัตว์ และพื้นเพเป็นคนแถวนั้นประกอบกับเล่นในเรื่องเครื่องรางต่างๆจากป่า ทุกๆสัปดาห์ท่านจะไปนั่งห้างยิงสัตว์ เคยจำได้ท่านเล่าให้ฟังเรื่องช้องหมูงาช้างกำจัด แต่น่าเสียดายที่ท่านเสียก่อนจะได้ถามเรื่องนี้แต่วันหนึ่งขณะที่กำลังทำห้าง ในช่วงบ่ายวันนั้นเองเมื่อทำห้างเสร็จก็ไปตักน้ำเพื่อเก็บไว้ดื่มก็ใกล้มืดพอดีปรากฏว่ามีพระธุดงค์ผ่านมา และปักกลดห่างจากห้างไประยะหนึ่งได้ คุณตาผมก็เดินนมัสการพร้อมกับชวนนั่งคุยซักพัก ก็คิดว่าจะบอกกล่าวแจ้งให้ทราบเรื่องคืนนี้จะมายิงสัตว์ แต่ยังไม่ทันได้บอกกล่าวเรื่องส

ต้องขออนุญาตก่อนใส่

รูปภาพ
     วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ตอนนั้นเราเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย วันหนึ่งเราเรียนและทำกิจกรรมต่างๆเสร็จก็กลับบ้านมานอน ด้วยความที่เหนื่อยและเพลียมาก เราก็นอนหลับช่วงตอนเย็นไปเลย แต่ไม่ได้หลับสนิทนะคะ รู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น นอนไปสักพัก เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่เเล้ว เราตอนนั้นเรากำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 เรื่องมันเกิดขึ้นตอนที่เราเผลอหลับไปตอนประมาณ 5 -6 โมงเย็น เราเผลอนอนหลับในห้องของเราตอนที่เราหลับมันเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นคือเรารู้สึกว่ามันมีลมแบบเเรงพัดเข้ามาโดนหน้าเรา เเล้วเราก็พยายามลืมตาขึ้นมาคือตอนเเรกมันลืมไม่ขึ้นเลยเราก็ฝืนลืมตาขึ้นมาพอลืมตาได้เท่านั้นเเหละ เราเห็นเป็นเงาดำๆก่อนเเล้วภาพก็ชัดขึ้นเรื่อยๆเราเห็นเป็นผู้หญิงผมยาวดำห่มสไปสีแดงแต่ไม่เห็นหน้า ยืนอยู่ตรงประตูห้องนอนของเราเเล้วผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับยืนเเล้วยื่นมือจะมาจับเรา ยิ่งตอนที่เค้าลอยมาพยายามจะเอามือนั้นมาจับเรา ลมก็ยิ่งเเรงมาขึ้นแบบลมพัดเเรงมาต

ไม่มีวันไหนที่ไม่โดนผีหลอก

รูปภาพ
       เรื่องมีอยู่ว่า…เราย้ายมาทำงานที่พัทยา เราทำงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ตอนที่ย้ายมาใหม่ๆเราไม่ค่อยจะมีเงินเช่าห้องดีๆอยู่ เราเลยตัดสินใจไปเช่าห้องแบบแบ่งให้เช่า  คือข้างล่างเค้าจะทำเป็นบาร์ ข้างบนจะแบ่งเป็นห้องเล็กๆให้คนเช่าอยู่ ราคาค่าเช่าก็ตกเดือนละพันห้าร้อยบาทน้ำไฟฟรี เราเห็นว่ามันถูกดีเราเลยไปเช่าอยู่คืนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น รึอาจจะเพราะเราทำงานเหนื่อยก็ไม่รู้นะ คืนแรกหลับสบายแต่คืนที่สอง….ความสยองก็เข้ามา! เราเลิกงานเที่ยงคืนกลับถึงห้องก็อาบน้ำกำลังจะนอนแต่ยังไม่หลับเพราะเสียงเพลงที่บาร์มันดังขึ้นมาข้างบนเบาๆ เราเลยนอนเล่นมือถือเล่นไปซักพักเราได้ยินเสียงเล็บขูดกับฝาห้อง ( เค้าใช้ไม้อัดมาแบ่งเป็นห้องๆเพื่อให้คนเช่า )เสียงขูดฝาห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆซักพักก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินไปเดินมาเราคิดว่าสงสัยจะมีคนมาเช่าห้องข้างๆเรามั้ง เราก็เล่นมือถือต่อไม่ได้คิดอะไรจนตีสองบาร์ปิดเพลงทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงเล็บที่ขูดฝาห้อง! เสียงนี้กลับมาอีกแล้ว  เราพยายามจะไม่คิดและเริ่มพยายามจะหลับตา ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองหลับยิ่งดึกเสียงเดินไปเดินมายิ่งดังขึ้นเรื่อ

โดนผีด่า

รูปภาพ
     เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านของผม ซึ่งหลังหมู่บ้านผมจะมีต้นกล้วยเต็มไปหมดผมเรียกกันว่า ป่ากล้วย จริงๆแล้วมันไม่ได้อยู่ในรั้วของหมู่บ้านผมหรอกครับ มันอยู่ข้างนอกคิดว่าเป็นพื้นที่ของชุมชนมุสลิมที่อยู่ติดกัน แต่สามารถมองถึงกันได้ เอาล่ะผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน…ป่ากล้วยที่ว่า มันอยู่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งบริเวณนั้นจะมีสนามฟุตซอลของหมู่บ้านพวกผู้ชายก็จะพากันไปเตะกันตอนเย็น แต่สิ่งที่ทุกคนรู้ดีคือ ถ้าเริ่มมองลูกบอลไม่เห็นต้องกลับทันที ถึงมีสปอตไลท์ก็ไม่เปิดครับ เพราะทุกคนที่อยู่มานานจะรู้ดี บางคนก็ฟังมา บางคนก็เจอมา ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ฟังพี่ๆเขาเล่ามาและประสบกับตัวเองด้วย ครั้งเดียวเท่านั้น จากที่ฟังพี่ๆที่เตะบอลด้วยกันเล่าตอนเด็กๆผมก็คิดว่าพี่เขาแกล้งหลอกให้เรากลัวสนุกๆ แต่สุดท้ายก็เจอครับ…ตอนนั้นอยู่ประมาณ ป.4 หรือ ป.5 นี่ล่ะครับ จำไม่ได้ละ ช่วงนั้นกำลังซนครับ ติดเล่นกลับจากโรงเรียนก็จะปั่นจักรยานคู่ใจไปตามเพื่อนๆมาเล่นกันที่สนามแล้วเผอิญวันนั้นไม่มีผู้ใหญ่มาเตะบอลกัน พวกเราเด็กๆก็เลยสนุกกันเต็มที่เลยเล่นกันตั้งแต่ 5 โมง จนใกล้จะ 6 โมง ปกติจะเริ่มทยอยเข้าบ้านแล้ว แต่ช่วงนั้นหน้าร้อน

โดนผีไล่

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นเราและเพื่อนไปเที่ยวกันที่ต่างจังหวัด เพราะอยากผ่อนคลายจากการทำงานหนัก เราไปเที่ยวแบบค้างคืนนะคะ เพราะพวกเราลางานกันเรียบร้อยแล้ว โดยได้พักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เพียงแค่พวกเราเข้าไปอยู่วันแรก เหตุการณ์แปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้นเลย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...วันนั้นเราไปเที่ยวตจว. กับเพื่อนๆค่ะ ก็จองแบบเตียงคู่ 2 เตียงค่ะ (ไปกัน4คนนะคะ) เราว่าจะไปอยู่กัน 3 วัน 2 คืนค่ะ แล้วพอเราไปถึงห้องแว๊บแรกก็จะมีกลิ่นแบบอับๆหน่อยแต่เราก็ไม่คิดอะไร(ห้องพักนั้นเป็นรีสอร์ทดังอยู่นะคะ) พวกเราก็เหนื่อยมากเพราะนั่งรถมาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็เลยรีบไปนอนพักก่อนแล้วค่อยออกไปเที่ยวกันค่ะ เราก็เลยไปเช็คว่าห้องเรียบร้อยดีมั้ย ของอะไรครบมั้ย เพื่อนเราคนหนึ่งก็เลยใช้เราให้หยิบน้ำให้ค่ะ เราก็เลยไปเปิดตู้เย็นมีแต่น้ำอัดลมแต่ก่อนหน้านี้พวกเราบอกพนักงานว่าเอาแต่น้ำเปล่าเราจึงบอกเพื่อนว่า “รอแปปนะ พนักงานเอาแต่น้ำอัดลมให้”เราเลยออกไปบอกกับพนักงานว่าน้ำในตู้เย็นเราสั่งเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียวน

วิญญาณตามกลับบ้าน

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานมาก สมัยนั้นเรายังเป็กเด็กอยู่เลยค่ะ เราเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯนะคะ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ พ่อกับแม่ของเราไม่มีเวลาดูเรา จึงพาเราไปฝากลุงกับป้าเลี้ยงที่บ้านตาในจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ เราไปอยู่ที่นั่นได้ไม่นาน ก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเราอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ค่ะ  พ่อแม่เราไม่ค่อยมีเวลาเลี้ยงเราเลยพาเราไปฝากลุงกับป้า ไปฝากที่บ้านตาในจังหวัดกาญจนบุรี ในตอนนั้นเราก็มีลูกพี่ลูกน้องอายุไล่ๆกัน มาคอยชวนกันเล่นเลยไม่เหงา เพราะเวลาลูกพี่ลูกน้องคนนี้จะไปเที่ยวไหนก็จะคอยหนีบเราไปด้วย วันนั้นลุงเขยพ่อของน้องคนนี้ว่างเลยชวนเราไปกินข้าวกันเราก็ตามไปด้วยตามประสาเด็ก ก็นั่งมองวิวจากหน้าต่างรถไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตสุสานทหารฝรั่งสมัยสงครามโลก เรา : ลุง ๆ ไหนบอกพามากินข้าวไง พามาที่นี่ทำไม? ลุง : ร้านมันอยู่ในนี้เพื่อนลุงบอกว่าข้าวคลุกกะปิที่นี่อร่อยมาก พวกเอ็งอยากกินกันไม่ใช่เหรอลุงเราพูดไปก็เลี้ยวเข้าไปจอดเทียบข้างๆ ร้าน (

พี่กระเป๋ารถเมล์พาหลอน

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนค่ะ ตอนนั้นเราเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่เรามีเวลาว่าง เรากับเพื่อนคนหนึ่งก็พากันออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง พอขากลับเท่านั้นแหละ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ เพื่อนที่ชื่อยุ้ย เพื่อนสนิทที่เรียนคนละวิชาเอกชวนเราไปเที่ยว แต่นางบอกว่าขอเข้าโบสถ์ก่อน เราก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้วและอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ก็เลยไม่ขัดข้องอะไร ก็ไปนั่งฟังอยู่กับยุ้ยในโบสถ์จนเสร็จแล้วก็มา ถึงเวลาขึ้นรถเมย์ไปเดอะมอล์บางแค เรากับยุ้ยได้ที่นั่งตรงข้างเครื่องยนที่เป็นม้านั่งยาวตรงข้ามกับคนขับซึ่งนั่งได้ประมาณ 4 คน รถออกไปได้สักพัก พี่กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บค่าโดยสาร เรากับยุ้ยก็ต่างคนต่างจ่าย จ่ายเสร็จเราก็หันไปคุยกับยุ้ยตามปกติเว้นแต่พี่กระเป๋ารถเมล์ที่ไม่ยอมไปไหน แถมยังเขย่ากะบอกเก็บเหรียญเหมือนจะทวงเงินอีก เรากับยุ้ยเลยเอาตั๋วมาโชว์บอกว่าจ่ายแล้ว พี่กระเป๋าก็ยืนท้าวสะเอวจะเอาเรื่องบอกว่าเพื่อนน้องอีกคน(ชี้ไปตร

เหตุการณ์ที่ใต้ต้นโพธิ์

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เหตุการณ์นี่้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก แล้วมักจะร่วมกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นๆเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกัน วันนั้นก็เป็นวันปกติ ผมกับเพื่อนๆก้รวมกลุ่มเล่นตำรวจจับผู้ร้ายเหมือนเคย โดยฝ่ายผมเล่นเป็นผู้ร้าย วิ่งจับกันไปสักพัก เหตุการณืที่ไม่คาดฝันก้เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตอนนั้น ผมอายุได้ประมาณ 8-9 ขวบ บ้านผมอยู่แถวชนบทมีไฟฟ้าเป็นบางหลัง ส่วนบ้านผมก็มาๆดับๆ ในคืนหนึ่งผมและเด็กๆแถวบ้าน มาเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกัน สมัยนั้นไม่มีมือถือหรือคอมใช้เหมือนทุกวันนี้ เราเลยมักรวมกลุ่มกันเล่นตามท้องถนนตามหมู่บ้าน ส่วนมากก็เล่นวิ่งไล่จับบ้างอะไรบ้าง คิดแล้วมันก็สนุกดีนะถ้าเทียบกับตอนนี้ เพราะเหมือนเราไม่สนิทกันเท่าเมื่อก่อน สมัยนี้ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตามองจออย่างเดียว คืนหนึ่งในคืนธรรมดาๆผมกับเพื่อนๆก็รวมกลุ่มกันเล่นตำรวจจับผู้ร้าย ฝ่ายผมเล่นเป็นผู้ร้ายส่วนอีกกลุ่มเล่นเป็นตำรวจ เรื่องเกิดขึ้นในตอนที่ฝ่ายผมโดนจับหมดแล้วเหลือแต่ผมคนเดียว แล้วทีนี้ผม

เพื่อนสนิท

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...ผมมีเพื่อนคนหนึ่งครับ สนิทกันมาก เรียนด้วยกันมาตลอด พักด้วยกัน ทำอะไรด้วย วันหนึ่งเพื่อนผมคนนี้ได้เกิดอุบัติเหตุครับ ทำให้เขากลายเป็นเจ้าชายนิทราไปเลย เพื่อนคนนี้จะชอบขี่มอเตอร์ไซค์ครับ วันหนึ่งผมได้ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล และนั่นคือสิ่งแปลกๆที่ผมได้เจอครั้งแรกครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า... เพื่อนคนนี้ชื่อ N ครับ รู้จักกันตั้งแต่ ม.ต้น ตอนนี้ก็เกือบ 20 ปีละ เรียน ปวช ปวส ป.ตรี ที่เดียวกัน อยู่หอด้วยกัน ไปเที่ยวหากันที่บ้านตลอดครับ ประมาณ 7 ปีก่อน เขาเกิดอุบัติเหตุตรง 4 แยกเชียงใหม่ภูคำ เขาขับรถมอเตอร์ไซด์ แล้วล้ม ไม่แรงนะครับ แต่ท้ายทอยกระแทกฟุตบาทกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ช่วงแรกๆที่อยู่โรงพยาบาลแถวๆเชียงใหม่ ผมได้ไปเยี่ยมเขาเขาอยู่ในสภาพที่ไม่ดีเอาซะเลยครับโดนเจาะคอ ใช้เครื่องช่วยหายใจ ร่างกายไม่ตอบสนองคงมีแค่ลมหายใจอะครับที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ ผมไปหาเขาที่โรงพยาบาล พอเดินเข้าไปก้าวแรกเท่านั้นแหละเหมือนเขาจะรู้ ขณะที่เขานอนหงาย หลับตาอยู่ เขาก็ตั้งเข่าขึ้นมาพ่อกับแม่เขาตกใจมาก อยู่โรง

คนหรือผี

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเรียนอยู่ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง โดยตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอม เราจึงไปเที่ยวกับแฟนที่ทะเล โดยได้พักอยู่ที่บังกะโลแห่งหนึ่ง แถวนั้นดุวังเวงมาก เพราะปิดไฟมืดหมด เราได้ออกไปนั่งสูบบุหรี่ หลังจากนั้น เหตุการณ์แปลกๆก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...สมัยตอนเราเรียนมหาลัยเราเคยไปเที่ยวกับแฟนที่บังกะโลบนเกาะแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนแฟนก็นอนในห้องดูทีวีเล่นมือถือ แถวนั้นก็จะมีบังกะโลอยู่ติดๆ กันเลย แต่เค้าปิดไฟนอนไปแล้ว เราก็ปิดไฟในห้องพักเหมือนกัน มีแต่แสงจากทีวีที่เปิด ตอนนั้นข้างนอกก็จะมืดๆ หน่อย เราก็ออกมาสูบบุหรี่ นั่งตรงม้านั่งใกล้ประตูห้อง สูบไปซักพักรู้สึกเหมือนมีคนมองจากด้านซ้าย เลยหันไป ปรากฏว่ามีคนมองเราจริงๆเป็นผู้ชายผอม ยื่นหัวออกมาจากข้างๆ กำแพงบังกะโลถัดไปจากเรา จ้องมาที่เราตาถลนเลยเห็นมือจับกำแพงแบบชะโงกมองเราอยู่ หัวโตยาวๆ ลีบๆ เหมือนไม่ใช่มนุษย์อ่ะ คือเราหันไปแบบแว้บๆ แบบพอรู้ว่ามีคนมองก็หันกลับทันที ก็นั่งสูบบุหรี่ไป ตอนนั้นในหัวก็ค่อยๆประมว

เหยียบต่อไม่รอแล้วนะ

รูปภาพ
     วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ที่แล้ว ตอนนั้นผมทำงานพิเศษเป็นดีเจที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ผมเลิกงานดึกทุกวัน และที่ทำงานกับที่บ้านผมค่อนข้างไกลด้วย ทุกๆวันที่กลับบ้าน ผมจะนั่งแท็กซี่กลับ จนมีอยู่วันหนึ่งผมก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านเหมือนเคย แต่คราวนี้กลับเจอเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...หลังเลิกงานที่ทำประจำ ก็เกือบเดือนนึงแล้วที่มาทำงานพิเศษเป็นดีเจเปิดเเผ่นให้ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ระยะทางที่กลับบ้านจากซอยหนามแดงเทพารักษ์ไปรามคำแหง24 ค่อนข้างเปลี่ยวและไกลพอดูเลยทีเดียว เเท็กซี่ขับมาเรื่อยๆทางเส้นศรีนครินทร์มาจนถึงช่วงตึกโมเดิร์นฟอร์มไฟถนนเป็นสีส้มๆสลัวๆพอทำให้มองเห็นเงาคนหลายคนยืนกันอยู่แถวเกาะกลางถนน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเกาะกลางถนนแถวนั้นยังเป็นท้องร่องหญ้ารกๆแต่มีสะพานไม้กระดานเล็กๆให้พอเดินข้ามถนนได้อยู่ เลยคิดว่าคนพวกนี้คงมารอข้ามถนน พอรถขับมาถึงตรงที่เห็นเงาคนก็ชนเข้ากับอะไรอย่างแรงเสียงดังปึ้ง!จนตัวกระเด็นกระดอนหัวสั่นหัวคลอน คือมันชนแรงมากตอนนั้นงงว่าเกิดอะไรข

ลบหลู่จนเจอดี

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเป็นเด็ก เราจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่เหนือธรรมชาติสักเท่าไร จนวันหนึ่งแม่เราพาไปเที่ยวหาญาติ ก็ต้องนอนค้างที่ย้านญาติ แม่เราบอกว่าให้เราไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนที่จะนอน เราไม่เชื่อเลยตอบแม่ไปว่า "ไร้สาระ" และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...ครั้งเเรกตอนเด็กเเม่พาไปค้างที่บ้านญาติ เเม่บอกก่อนนอนมาถึงให้ไหว้เจ้าที่ เเต่เราสวนเเม่ทันทีว่า “เจ้าท่งเจ้าที่ไรเเม่ไร้สาระไม่มีหรอก” ว่าเเล้วก็นอนเลยไม่ทำตาม**พลั๊ว!!!** ทันทีที่หลับตายังไม่หลับนะเเค่ปิดเปลือกตาเราเห็นมือดำๆ ตบที่หน้า ชาไปทั้งหน้าจนหูอื้อสะดุ้งขึ้นนั่งตกใจ หูอื้อเจ็บที่เเก้ม แม่นั่งมองยิ้มๆ เเม่บอกเเล้ว!!อยู่ๆเเม่ก็พูดเหมือนรู้ เราไม่สนใจนอนลงไปอีกทีคราวนี้คนตัวดำๆ ดำทั้งตัวตัวใหญ่ๆเดินมาตบซ้ำอีกที ทีที่สองนี่เเหละลุกสวดมนต์เลยค่ะ เราเล่าให้เเม่ฟังว่าใครตัวใหญ่เเละดำขนาดนี้ไม่มีหน้าตา เเม่บอกว่านี่หละเจ้าที่น่ะ ตั้งเเต่นั้นไปไหนมาไหนก็ยกมือไหว้ตลอ

มีห้องนาฏศิลป์ที่ไหนมีผีที่นั่น

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...ผมเป็นนักเรียนมัธยมต้นครับ ผมมักจะเลิกเรียนประมาณบ่าย 3 โมงครับ แต่มีนักเรียนบางคนที่เรียนพิเศษจะยังไม่ได้ลงมา ซึ่งผมอยากเรียนพิเศษมาก แต่พ่อของผมไม่ให้เรียนครับ แต่ผมได้แอบไปเรียนพิเศษ ซึ่งคุณครูใจดีมาก พวกนักเรียนที่เรียนพิเศษทุกคนจะสนิทและคุณครูคนนี้มาก พวกผมจึงให้คุณครูเล่าเรื่องผีที่เคยเจอให้ฟัง คุณครูก็เล่าให้ฟัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...ในช่วงตอนเย็น บ่าย 3 ที่นักเรียนจะลงมาจากห้องเพราะเป็นเวลาเลิกเรียน แต่ก็มีบางคนที่เรียนพิเศษ ซึ่งผมอยากเรียนพิเศษมากครับแต่พ่อไม่อยากให้เรียน มันเปลืองตังค์ ผมเลยแอบไปเรียนพิเศษ คุณครูก็ใจดีมากกกกคุณครูชื่อ ครูจ๋า นะครับ ได้สอนเกี่ยวกับการบ้าน หรือ ไม่ก็หาคำศัพท์ ประมาณนี้ แต่แล้ววันหนึ่งผมได้ถามคุณครูว่า เคยเจอผีรึเปล่า คุณครูก็บอกว่า “เคยเจอสิ” ผมเลยขอให้เล่าให้ฟังหน่อย ทุกคนอ้อนวอนอย่างกับคุณครูเป็นพระเจ้า คุณครูก็ตอบมาว่า "ได้แต่ถ้านอนไม่หลับ ครูไม่เกี่ยวหน่าาา" ตอนนั้นคุณครูได้ไปอบรมครับซึ่งอบรมที่โรงเรียนเก่า ครูผมก็ไปและเพื่อนข

เรียกแบบไม่ขานชื่อ

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในตัวเมืองของกรุงเทพ เราก็ไปทำงานตามปกติทุกวัน เวลาเลิกงานของเราคือ 20:00 วันนั้นด้วยความที่เราเหนื่อยและเพลียมาก เราจึงโทรหาแฟนให้มารับ หลังจากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...มีวันหนึ่งเราฝันว่ามีผู้หญิงตัวสูงมาก ประมาณ 200 กว่าเซนติเมตร ผมดำยาวเกือบถึงพื้น ตาโตหลุน ปากกว้างเกือบถึงหู ตามเราไปทุกที่ ระหว่างฝันก็ตื่นขึ้นมาเปลี่ยนท่านอนเรื่อยๆ แต่พอหลับก็ฝันต่อจากเดิมทุกครั้ง แปลกตรงที่เรารู้สึกกลัวกึ่งหนึ่ง แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยไปด้วยกึ่งหนึ่ง ( เหมือนเคยอยู่ด้วยกันนานแล้ว ) สุดท้ายพอเราทนไม่ไหว เราก็นึกถึงเจ้าที่ แล้วภาพทั้งหมดดับไปเลย แล้วมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาเหมือนคุยกับใครอยู่ แต่ได้ยินเสียงผู้หญิงแค่คนเดียวเขาพูดว่า “มันเป็นคนเรียกกุมาเอง มันพูดว่า “จะมารับไหม”พอไปหามัน มันก็พูดว่า “มาแล้วเหรอ เหนื่อยไหม” แล้วเราก็ตื่นขึ้นมาเอง แล้วนั่งอึ้งอยู่นานมาก เพราะคำพูดที่ผู้หญิงค

เลี้ยวซ้ายเจอดีแน่

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีมากแล้ว โดยพ่อแม่เราได้ไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเอามากๆ พ่อแม่เราได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นพ่อแม่เรากำลังเดินทางจะไปดูการแสดงรองกองไฟ เพราะคุณครูได้เชิญผู้ปกครองให้ไปดู และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...ตอนเราอยู่ ป.5 ตอนนั้นที่บ้านเราทำอาชีพค้าขาย จึงทำให้บ้านเรามีกุมารทองอยู่ที่บ้าน ที่บ้านเราเคยไปวัดในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งไกลมากๆ มีแต่ป่าห้อมร้อมทั้งสองข้างเป็นวัดที่ตั้งกลางป่า เราจำได้ว่าตอนนั้นพ่อเราไปอาบน้ำมนต์ ทำอะไรซักอย่าง ขากลับต้องเอาเราไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร เหมือนเครื่องเซ่นวางทิ้งไว้กลางทาง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย มีอยู่วันหนึ่ง ช่วงหัวค่ำ เรากำลังจะหลับ แต่ตอนนั้นเรารู้สึกตัวนะ กึ่งหลับกึ่งตื่น สลึมๆนิดๆ หันไปเห็นหน้ากุมารทองทับหัวของแม่เราอีกที เราตกใจแบบขยี้ตาก็ไม่เห็นอะไรอีก เลยคิดว่าไม่มีไร เลยไม่ได้บอกใคร จนเวลาผ่านไป เราชอบอ่านเรื่องผีๆหลอนๆหน่อยๆ ไปเจอเรื่องหนึ่งน่าสนใจมาก “มี นศ กลุ่มหนึ่งจะต้องไปถ่ายงานส

ผีสิงร่างขอส่วนบุญ

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เปิดเรื่องที่เกิดกับยายของเรา ซึ่งแม่เราได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย โดยตอนนั้นเรายังไม่เกิด แม่เล่าให้ฟังว่า วันนั้นเป็นวันพระ แต่ยายเรากลับอยากออกไปตกปลา โดยปกติแล้ว ยายจะไม่ไปเลย นานๆจะไปครั้ง แต่วันนั้นถือคันเบ็ดไปตกปลาคนเดียว และนั่นก้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...แม่เราเล่าเรื่องเกี่ยวกับยายให้ฟังว่าเมื่อก่อน ย้อนไปประมาณ30กว่าปีตอนแม่เราอายุ15 ช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาลเดือนสิบ ตอนเที่ยงวันของวันหนึ่งอยู่ๆยายของเรานึกอยากจะไปตกปลา ซึ่งปกติก็ไม่ได้ตกบ่อยมากนักโดยเฉพาะวันพระ ยายจะไม่ไปเลย แต่วันนั้นเป็นวันพระไม่รู้อะไรดลใจให้ยายไปตกปลา ยายฉวยคันเบ็ด เดินไปที่สระน้ำในหมู่บ้าน อยู่ในซอย12ซึ่งบ้านยายอยู่ในซอย13 (จ.ชุมพร)​ ระยะห่างระหว่างบ้านยายไปถึงต้นซอย13ก็ห่างกันประมาณ​ครึ่งกิโลเมตร เดินต่อไปถึงลำคลองในระยะทางไม่เกินครึ่งกิโลก็ถึงคลอง ซึ่งวันนั้นยายไปตั้งแต่เที่ยง แม่เราก็เอะใจว่าทำไมเย็นแล้วก็ยังไม่กลับบ้าน ช่วงเวลาประมาณ​5โมง ยายเราเดินจากคลองไปนอนบนแคร่ห

วันซวยแห่งชาติ

รูปภาพ
       วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเรียนอยูที่มหาลัยแห่งหนึ่ง วึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่กิจกกรมเยอะมาก และหนักมาก เราไม่เคยได้กลับบ้านต่ำกว่า 3 ทุ่มเลย เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้จะวันกีฬาสีแล้ว วันหนึ่งเราและเพื่อนคนอื่นๆก็ช่วยกันทำงานในส่วนของตัวเองตามปกติ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งนึกได้ว่าลืมปิดพัดลมที่ใต้ตึก ทุกๆคนก็พากันไปปิด และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เรื่องนี้เป็นช่วงเรียนมหาลัยปี 2 เทอม 2 ค่ะ ตอนนั้นจำได้ดีเพราะเป็นช่วงที่ทำกิจกรรมหนักมากต้องกลับบ้านดึกทุกวัน ไม่เคยต่ำกว่า 3 ทุ่มสักที เพราะเป็น Staff งานกีฬาสีคณะนั่นเอง เราต้องเลื่อยไม้ทำฉากแสตนกับเพื่อนๆร่วมคณะสิบกว่าคนได้ และก็มีรุ่นพี่บางส่วนมาช่วยทำชุดลีดเดอร์ให้ วันนั้นรู้สึกว่าเป็นวันที่โครตจะโป๊ะเชะเป็นพิเศษ เพราะเพื่อนเราคนหนึ่งเกิดนึกได้ว่าลืมปิดพัดลมที่ใต้ตึกเลยพากันยกโขยงกันกลับไปปิด แต่เราขอยืนอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างตึกกับเพื่อนชื่อมัฟอีกคน เราก็คุยกับมัฟไปเรื่อยๆ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงจ

รูปไม่ตรงปก

รูปภาพ
     วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไมากี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตอนนั้นเรากับแฟนได้ไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราก็ได้หาโรงแรมที่ถูกๆกัน เพราะเราต้องประหยัดเงิน จนไปได้โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งดูในรูปแล้วโอเคมาก แต่พอไปเจอของจริงนี่น่ากลัวมาก เพียงแค่เข้าไปอยู่คืนแรก เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราและแฟนพากันไปเที่ยวจังหวัดหนึ่ง เราเลยหาโรงแรมหรือห้องพักถูกๆเพื่อเข้าพักชั่วคราว(ประหยัดเงิน) ตอนนั้นเราจองที่พักจากหน้าเว็บ ภาพห้องนอนสวยมากก ตอนนั้นรู้สึกโอเคมากๆเลยตัดสินใจเข้าพักกับที่นี่ จากนั้นพอเราไปถึงที่พักจริงๆ ที่นั้นก็มีลักษณะเป็นเหมือนห้องแถวอ่ะ แล้วมีบันไดแคบๆเพื่อเดินเข้าไปแต่ละห้อง(เหมือนห้องร้างอ่ะ) แต่ว่าแต่ละห้องก็มีคนอยู่นะ ตอนแรกที่เราเข้าพักเราก็รู้สึกไม่ประทับใจละเพราะมันค่อนข้างหน้ากลัว แต่จะทำไงได้อุตส่าห์จ่ายตังไปแล้วเนอะ คืนแรก ตอนเราเข้าไปในห้อง เรากับแฟนก็มองไปรอบๆห้อง แล้วเราทั้งสองคนก็รู้สึกว่าห้องนี้เหมือนมีคนอ

คืนสุดท้ายที่เขาขนไก่

รูปภาพ
     วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นผมเรียน รด.ครับ เรียนถึงปี 3 แล้ว ผมก้ต้องไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ การเข้าค่ายผ่านไปได้ด้วยดีครับ ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ทั้งคิดถึงบ้าน และลำบากมาก จนมาถึงคืนที่4 ผมได้เวรไปเฝ้าที่ห้องน้ำครับ และหลังจากนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาครับ ผมได้เรียน รด.มาจนถึงปี3 และต้องไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่เป็นเวลา5วัน4คืนครับ การฝึกเป็นไปได้ด้วยดีครับ เหนื่อยมากคิดถึงคนที่บ้านมาก คิดถึงเตียงนุ่มๆที่บ้าน คิดถึงอากาศปลอดโปร่ง เพราะที่นี่ฝุ่นเยอะมากจนจามออกมาน้ำมูกเป็นสีดำเลยครับ การฝึกดำเนินไปจนถึงวันที่4 ซึ่งเป็นวันที่เหนื่อยที่สุด เพราะต้องเดินเท้า9-10กิโล เพื่อไปฐานต่างๆ จนได้เจอกับสุดยอดครูฝึก “จ่านรก”ครับ ก็ฝึกกันไปหมอบคลานตามเรื่องตามราว จนฝึกเสร็จ กลับไปที่กองพัน ทุกคนเพลียมากแต่ก็ได้รับอนุญาติให้อาบน้ำได้สบายใจ เรื่องมันเริ่มมาจากเต๊นท์นอนของผมนั้นอยู่ในโซนที่จะต้องเป็นเวรยามในวันน

ผีเข้ามาขัดจังหวะ

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมกับภรรยาทำงานด้วยกันที่บริษัทแห่งหนึ่ง แล้ววันนั้นในห้องทำงานมีแค่ผมกับภรรยาอยู่ 2 คน ด้วยความที่ภรรยาแต่งตัวเซ็กซี่ ผมจึงเกิดอารมณ์ และชวนภรรยามีอะไรที่นั่น ผมจึงปิดไฟปิดประตูจนหมด หลังจากที่เรา 2 คนถอดเสื้อผ้าแล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...ผมกับภรรยาสาวทำงานที่ออฟฟิศเล็กๆ แห่งหนึ่ง วันหนึ่งผมกับภรรยาทำงานอยู่กันจนดึก แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ออฟิศที่ผมทำงานอยู่นั้นมีติดกล้องวงจรปิดก็จริง แต่ก็ติดอยู่แค่ภายนอกอาคารหนึ่งตัว ทางขึ้นออฟิศหนึ่งตัว และหน้าทางเข้าด้านหน้าและด้านหลังอีกหนึ่งตัวเท่านั้น แต่ในห้องไม่ได้ติดเอาไว้ และเป็นออฟิศเล็กๆจึงไม่ได้มี รปภ. ในระหว่างที่กำลังนั่งทำงานใกล้จะเสร็จแล้วนั้น เนื่องจากผมเห็นภรรยาในวันนี้แต่งตัวมาทำงานค่อนข้างจะเปรี้ยวๆ จึงเกิดอารมณ์ ก็เลยชวนภรรยามีอะไรกันในออฟฟิศเพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตุ ผมจึงได้ปิดไฟทั้งหมด ในขณะที่กำลังนัวเนียกันกับภรรยา จู่ๆก็มีเสียงเคาะประต

เหตุการณ์อันหดหู่ในวันลอยกระทง

รูปภาพ
      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยตอนที่เรายังเป็นเด็ก วันนั้นเป็นวันลอยกระทง เรากับเพื่อนอีก 2 คน ก็จับกลุ่มนั่งทำกระทงกัน เพื่อที่จะเอาไปลอย พวกเราทำกันเสร็จเรียบร้อย ก้พากันไปลอยในตอนเย็น โดยมีพี่สาวคนหนึ่งพาพวกเราไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่ไม่คาด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เรื่องราวของกลุ่มเด็กชาย-หญิง 3 คนที่นั่งทำกระทงกันเอง เพื่อในตอนเย็นจะได้นำกระทงนั้นออกไปลอย ในเย็นวันนั้นเองเมื่อทั้งสามทำกระทงเสร็จก็เดินไปยังแม่น้ำแถวบ้าน โดยมีพี่สาวเดินไปด้วยอีก 1 คนในระหว่างที่ลอยนั้นทั้ง 4 คนได้สังเกตว่าตามริมฝั่งน้ำไม่ค่อยมีคนมาลอยกระทงกันเลย ก็ได้ยืนคุยกัน จนกระทั่งเด็กผู้ชายคนเดียวในกลุ่มได้เห็นกระทงใบน้อยๆลอยมา และในนั้นก็มีแบงค์ร้อยเหน็บไว้อยู่เขาจึงกระโดดลงน้ำไปหวังจะเก็บเงินนั้น ตอนนั้นเองอยู่ๆก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาดึงขาของเด็กชายคนนั้น เราและเพื่อนอีก 1 คนรวมถึงพี่สาวที่พาเดินมาก็ตกใจและออกอาการเป็นห่วงกัน พี่สาวที่อยู่ดูแล้วว่าน้องคงไม่ได้แกล้งแน่ๆก็รีบหาไม้ยาวๆ มาให