เลี้ยวซ้ายเจอดีแน่


      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีมากแล้ว โดยพ่อแม่เราได้ไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเอามากๆ พ่อแม่เราได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นพ่อแม่เรากำลังเดินทางจะไปดูการแสดงรองกองไฟ เพราะคุณครูได้เชิญผู้ปกครองให้ไปดู และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...ตอนเราอยู่ ป.5 ตอนนั้นที่บ้านเราทำอาชีพค้าขาย จึงทำให้บ้านเรามีกุมารทองอยู่ที่บ้าน ที่บ้านเราเคยไปวัดในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งไกลมากๆ มีแต่ป่าห้อมร้อมทั้งสองข้างเป็นวัดที่ตั้งกลางป่า เราจำได้ว่าตอนนั้นพ่อเราไปอาบน้ำมนต์ ทำอะไรซักอย่าง ขากลับต้องเอาเราไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร เหมือนเครื่องเซ่นวางทิ้งไว้กลางทาง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย มีอยู่วันหนึ่ง ช่วงหัวค่ำ เรากำลังจะหลับ แต่ตอนนั้นเรารู้สึกตัวนะ กึ่งหลับกึ่งตื่น สลึมๆนิดๆ หันไปเห็นหน้ากุมารทองทับหัวของแม่เราอีกที เราตกใจแบบขยี้ตาก็ไม่เห็นอะไรอีก เลยคิดว่าไม่มีไร เลยไม่ได้บอกใคร จนเวลาผ่านไป เราชอบอ่านเรื่องผีๆหลอนๆหน่อยๆ ไปเจอเรื่องหนึ่งน่าสนใจมาก “มี นศ กลุ่มหนึ่งจะต้องไปถ่ายงานส่งครู แต่สถานที่ที่เลือกอยู่ทางไปแก่งกระจาน ซึ่งค่อนข้างไกล และตอนนั้นก็มืดแล้วแต่พวกเขาก็ตัดสินใจออกเดินทาง ไปกัน4คน ขับไปเรื่อยๆเมื่อยก็แวะ เขาขับมาซักพักก็มีความรู้สึกว่าหลงหรือป่าว แต่โชคดีเจอร้านค้าเลยแวะถามทาง นศ กลุ่มนั้นถาม ลุงจะไปสถานที่นี้จะต้องไปทางไหน พอลุงได้ยินก็อึ้งไปแป็บนึง แล้วแกก็บอกว่าไปทางนั้นมันอันตราย แต่ นศ บอกอยากรีบไปถึงไวๆจะได้พัก ลุงแกเลยบอกว่า ขับตรงไปจะเจอทางแยก ไม่ว่าจะเห็นป้ายเขียนว่าอะไรให้เลี้ยวขวาอย่างเดียว นศ ก็เริ่มเดินทางอีกครั้ง ระหว่างทางก็มีความเม้ามอยกัน จนลืมเรื่องที่ลุงบอก พอไปถึงทางแยกก็เห็นป้ายให้เลี้ยวซ้าย คนขับก็ถาม เราต้องเลี้ยวไหนทุกคนบอกไปเสียงเดียว เลี้ยวซ้าย พอเลี้ยวซ้าย เพื่อนที่นั่งหลัง2คนก็กรี๊ดขึ้นมา เพื่อนที่นั่งข้างคนขับก็นั่งหลับตา ส่วนคนขับก็นิ่งๆ ขับไปเจอพระรูปหนึ่ง ท่านบอกให้ตรงไปในวัดพอทุกคนถึงวัดก็รีบเข้าโบสถ์ เช้าวันรุ่งขึ้น นศ กลุ่มนี้ก็เล่าให้พระที่วัดฟังว่า พอเลี้ยวมา 2คนหลังก็เห็นคนมาเกาะที่กระจกหลัง คนข้างคนขับก็เห็นผู้หญิงคนเดิมซ้ำๆหลายครั้ง ส่วนคนขับหมดสติไป เพราะเห็นคนแก่เกาะอยู่หน้ากระจกฝั่งคนขับ พระท่านบอกโชคดีมากนะที่รอดมาได้เพราะปกติเวลามีใครมา มักจะมาไม่ถึงตลอด” เราเลยเล่าให้พ่อเราฟัง พ่อเราเลยเล่าเรื่องที่พ่อเจอให้ฟัง ตอนนั้นเราไปเข้าค่ายกับ รร ครูเชิญให้ ผปค ไปดูการแสดงรอบกองไฟ พ่อแม่เราตัดสินใจมาระหว่างทางพ่อเราก็ขับไปเรื่อยๆ เส้นเดียวกับเรื่องที่เราอ่านเจอ พ่อเราเห็นป้ายก็เลี้ยวซ้ายขับเท่าไหร่ก็ไม่ถึง พ่อเราโทรถามครู ครูบอกเลี้ยวขวาๆ แต่คือป้ายบอกซ้ายพ่อเราก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายอีกครั้ง อยู่ๆก็เบรคกระทันหัน เพราะเห็นโรงแรม จะลงไปถามทางเป็นโรงแรมที่ใหม่มาก แต่เงียบมากๆๆ พ่อเรารู้สึกแปลกๆ ในใจก็สวดมนต์ พอจบบททุกอย่างที่เห็นก็เปลี่ยนไป โรงแรมที่เห็นใหม่ๆกลับกลายเป็นแบบเก่ากึก ร้างมาก และที่พีคสุดคือข้างหน้าห่างออกไปไม่กี่เมตร เป็นหน้าผา ซึ่งพ่อเราตกใจๆมากๆ แม่เรากลับเงียบไม่พูดอะไรซักคำ ตั้งแต่ไปถึง พ่อเราเล่าให้ฟัง ซึ่งเรื่องที่พ่อเราเล่าให้ฟังมันพอดิบพอดีกับสิ่งที่เราเห็นเรื่องที่เวลาใครที่ไม่มีเงาหัวต้องหาอะไรมาต่อ นี่อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างก็ได้ ไม่นานมานี้เราเลยลองถามแม่เรื่องพวกนี้ แม่เราเล่าเหมือนพ่อเด๊ะ และเราก็ถามว่า แล้วแม่เห็นอะไรอีกมั้ยเพราะพ่อบอกนั่งเงียบไปเลย แม่เราก็ไม่กล้าพูด แต่ก็ยอมบอกออกมา สิ่งที่แม่เห็นจนทำให้เงียบก็คือพอไปถึงที่นั้นก็เห็น ผญ ผมยาวใส่ชุดสีแดงตาแดงก่ำ พุ่งเข้ามา สิ่งนี้จึงทำให้แม่ไม่อยากที่จะพูดเพราะกลัว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง