บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2020

เปิดพัดลม

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว สมัยเรียนเรากับแฟนเก่าอยู่ด้วยกันค่ะ อยู่ที่บ้านแฟน มีครั้งหนึ่งเป็นช่วงสอบ ทำให้เราทั้งคู่ต้องอ่านหนังสือหนัก และนอนดึกติดต่อกันจนแฟนเราป่วย เราก็ช่วยดูแล พยาบาลให้ตลอด จนมีคืนหนึ่งจำไม่ได้ว่ากี่โมง เราก็ดูแลแฟนเราจนเผลอหลับไป แล้วอยู่ๆ เราก็รู้สึกว่าเราขยับตัวไม่ได้ ประมาณว่าต้องโดนผีอำแน่ๆ เพราะเราเคยเป็นแบบนี้บ่อย สักพักเราได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงดูมีอายุหน่อย บอกเราว่า ‘เปิดพัดลม..’ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้โต้ตอบอะไร พยายามแต่จะขยับตัว จนสักพักทุกอย่างก็กลับมาปกติ เราขยับตัวได้ เสียงคนที่พูดก็หายไปแล้ว.. เรารีบลุกขึ้นตั้งสติ และคิดเอาเองว่าเราคงจะเหนื่อยจากอ่านหนังสือ และดูแลแฟน แล้วเราก็นอนต่อโดยที่ไม่ได้สนใจอะไร และก็ไม่ได้เปิดพัดลม เนื่องจากช่วงนั้นอากาศก็เย็นดีอยู่แล้ว แล้วเราก็หลับต่อ ตอนนั้นคือนอนตะแคงหันออกไปด้านนอกเตียงค่ะ แล้วเราก็โดนอีก! รอบนี้คือเขามาทำเสียงแข็งบอกว่า ‘กูบอกให้เปิดพัดลม!’ คือใจเราก็กลัว แต่อีกใจก็หงุดหงิด เราพยายามฝืนหรี่ตาดูอย่างเบลอๆ ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นคือ ขาคนแก่นุ่งผ้าสีขาว เราเห็นแค่ท่อนล่างยืนอยู่ข้างเตียง ต

นอนได้ยังไง

รูปภาพ
     เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นสมัยผมเรียนอยู่ ปวช. ปี 2 ครับ ตอนนั้นผมเป็นคณะกรรมการนักเรียนครับ ครั้งหนึ่ง อาจารย์ได้คัดเลือกกรรมการนักเรียน 6 คน เพื่อที่จะลงไปดูพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดนิทรรศการ และการแข่งขันทางทักษะ ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน ในกลุ่ม 6 คนที่ถูกเลือกเป็นชายล้วน คือรุ่นพี่ปี 3 4 คน ปี 4 1 คน และปี 2 1 คน คือผมเอง แต่ก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงอีกคนอาสาไปเป็นคนที่ 7 ครับ พี่แกอ้างว่าไม่ไว้ใจผู้ชาย กลัวเงินที่ออกให้จะหมดก่อน พี่แกชื่อหยก อยู่ปี 3 คนนี้แหละคือเจ้าของเรื่องที่จะเกิดขึ้นครับ พวกเราออกเดินทางไปจนถึงวิทยาลัยแห่งนั้นก็เย็นแล้ว ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนเป็นอาจารย์ พาไปยังห้องพักที่ทางวิทยาลัยจัดไว้เป็น 2 ห้อง ชาย 1 หญิง 1 เท่ากับว่าพี่หยกต้องนอนคนเดียว แต่พี่หยกแกกลัว เลยจะขอมานอนด้วย แต่ฝั่งผู้ชายบอกว่า ให้ผมเป็นคนไปนอนเป็นเพื่อนแทน เพราะพวกพี่เขาจะกินเหล้ากัน ซึ่งผมไม่กิน สุดท้ายผมก็ยอมไปแต่โดยดี ลักษณะห้องจะเหมือนกันหมด คือสำหรับ 6 คนนอน ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง ผมเลือกเตียงมุมห้อง พี่หยกแกนอนกลางห้อง.. พอเข้าห้องผมก็อาบน้ำก่อน แล้วกลับเข้ามานอนบนเตียงหยิบหนังสื

แล้วมาใหม่นะ

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกๆ ค่ะ แต่สำหรับเราแล้วถือว่าหลอนเลยทีเดียว.. บ้านของเรามีกิจการร้านอาหารอยู่ 2 ร้านค่ะ ร้านจะปิดประมาณตี 3 ของทุกวัน ปกติเราจะเอามอเตอร์ไซค์มาที่ร้านด้วย เวลาปิดร้านหนึ่งเสร็จ จะได้ขี่ไปยังอีกร้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมาก แล้วค่อยขับรถกลับบ้านกัน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นวันที่เราไม่ได้เอามอเตอร์ไซค์ไปด้วย ทำให้เวลาจะปิดร้าน เลยต้องเดินกันไปอีกร้าน คืนนั้นเราก็เดินกันไป 3 คน มีเรา แม่เรา และพี่วัน ลูกจ้างของแม่.. เผอิญว่าวันนั้นเราทะเลาะกับแม่นิดหน่อย ตอนเดินเราเลยแยกออกมาเดินห่างหน่อย โดยที่แม่กับพี่วันเดินนำกันไปก่อน แล้วเราเดินตามหลัง ซึ่งเว้นระยะห่างพอสมควรเลยล่ะค่ะ เราเลือกที่จะเดินทะลุห้างไป เพราะมันใกล้กว่า ซึ่งห้างที่ว่านี้ปิดตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้ว ขณะที่เดินเข้าไปในห้าง แม่กับพี่วันก็เดินไปคุยไป ส่วนเราก็เลือกที่จะเดินตามหลัง แล้วเสียบหูเปิดเพลงฟัง ระหว่างทางก็เดินกันไปปกติไม่มีอะไร แต่พอไปถึงตรงกลางห้าง จะเป็นช่วงที่มืดพอสมควรเพราะเค้าปิดไฟกันหมดแล้ว เราก็เดินไปเบื่อๆ ก็เริ่มหาอะไรเล่น เลยยื่นมือออกไปข้างๆ แล้วแกว่งมือ จินตนาการว่ากำลังจับมือเพ

ฝากขอโทษพ่อแม่แทนหนูด้วยนะ

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มผม สมัยที่เรียนอยู่ ปวช. ปี 1 เพื่อนผมคนนี้มีชื่อว่า นก ครับ เป็นคนบุคลิกห้าวๆ คล้ายผู้ชาย แต่รูปร่างหน้าตาน่ารัก คือถ้าแต่งหญิงหวานๆ จะสวยมากเลย นกจะเป็นคนทักนู่นทักนี่แปลกๆ อยู่บ่อยครั้ง มีครั้งหนึ่ง นั่งกินขนมกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนตอนเช้าก่อนเข้าเรียน มีเพื่อนผู้ชายอยู่คนละห้องกับพวกผม ใส่ชุด รด. มาเลย เดินมาคุยกับไอ้พันที่นั่งตรงข้ามผม ไอ้พันบอกว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ บ้านมัน เป็นคนชอบชุด รด. มาก บอกเท่ห์ดี ระหว่างที่เพื่อนคนนั้นคุยกับไอ้พัน อยู่ๆ นกก็พูดขึ้นมาว่า ‘ใส่แล้วหล่อดีนะ! แต่คงจะได้ใส่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ..’ พวกผมได้ยินก็หันไปมองหน้านกกันหมด นกไม่พูดอะไร แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเหมือนไม่มีอะไร.. ในวันต่อมา อาจารย์ได้ประกาศหน้าเสาธงตอนเช้าว่ามีเด็กนักเรียนชื่อ-นามสกุลนี้ ไปฝึก รด. แล้วเกิดหัวใจวายเสียชีวิตเมื่อวานนี้ พวกผมพร้อมใจกันหันไปมองหน้านกกันหมดเลย นกได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร..เรื่องราวต่อมาคือตอนไปเที่ยวหาดแม่รำพึงที่จังหวัดระยอง เอารถปิคอัพของพ่อไอ้พันไปกัน นกก็ขอมานั่งหลังกับผม เบียร์ และเอก นกใส่ชุดสบา

ไม่เอาแล้ว เอาคืนไปเลย

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นเรื่องสมัยเราเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราโดยตรงนะคะ แต่เกิดกับเพื่อนสนิทเราเอง เรากับเพื่อนสนิทคนหนึ่งได้ย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยลัยเดียวกัน คณะเดียวกันแต่คนละสาขา ด้วยความที่สนิทกันมานาน ก็เลยเช่าหอพักอยู่ที่เดียวกัน เป็นหอหญิง แต่อยู่คนละห้องนะคะ เพื่อความเป็นส่วนตัว.. หลังจากนั้น ก็มีเพื่อนร่วมสาขาของเพื่อนสนิทเรา มาเช่าหอพักเดียวกัน อยู่ห้องใกล้ๆ กัน.. เพื่อความไม่งง เราขอตั้งชื่อให้เพื่อนเราแล้วกัน เพื่อนเราที่สนิทกับเรามานาน ชื่อเอ (นามสมมติ) ส่วนเพื่อนร่วมสาขาของเอที่มาเจอทีหลัง พักอยู่อีกห้องใกล้ๆ กัน ชื่อบี (นามสมมติ) เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เราเริ่มเรียนไปได้ 4-5 เดือน ด้วยความที่เรา 3 คน สนิทกันมากขึ้น เพราะอยู่หอเดียวกัน เดินเข้าออกห้องของกันและกันทั้ง 3 ห้องได้ ไม่มีใครระวังใคร โดยที่ห้องของเอ จะเป็นห้องประจำที่พวกเรามักจะไปรวมตัวกันเสมอ ก่อนแยกย้ายไปนอน.. แต่แล้ว ความผิดปกติก็เริ่มเกิดขึ้นค่ะ เมื่อของของเอเริ่มหายไป ครั้งแรกๆ ก็เป็นเงินไม่กี่สิบบาท พวกเราก็คิดกันว่า เอคงจะซุ่มซ่าม เผลอทำเงินหล่นระหว่างทางบ้าง ห

มีอะไรดลใจ

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นเรื่องราวแปลกๆ อาจจะไม่ได้น่ากลัวเท่าไร เป็นเรื่องที่แม่ผมเจอมากับตัวครับ สมัยผมเป็นเด็ก น่าจะเรียนอยู่ชั้น ป.1 แม่ได้จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงผมกับพี่สาว เพราะช่วงนั้นของขายดี แม่เลยไม่ค่อยมีเวลา พี่เลี้ยงคนนี้ชื่อว่า พี่ทิพย์ แกเป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์ครับ ญาติๆ หามาให้ ยังสาวๆ อยู่เลย พี่ทิพย์แกก็ดีนะ เลี้ยงดี ป้อนข้าว พาไปเล่นสนามหญ้า ซื้อขนมให้ ผมติดพี่ทิพย์เอามากๆ บางวันผมก็ไปนอนกับพี่ทิพย์ที่ชั้น 3 ก่อนนอนแกชอบเล่านิทานบ้าง เรื่องผีบ้าง ซึ่งผมก็ชอบฟัง แต่พี่ทิพย์อยู่ได้ปีกว่าๆ แกก็บอกคิดถึงบ้าน อยากกลับไปทำนา คิดถึงพ่อ คือแม่พี่ทิพย์แกเสียไปไม่นานก่อนที่พี่ทิพย์จะมาเลี้ยงผม บางคืนผมก็เห็นพี่ทิพย์ร้องไห้ ผมถามแก แกก็บอกคิดถึงแม่ จนวันหนึ่งพี่ทิพย์ก็ขอแม่ลาออกเพื่อที่จะกลับบ้าน ผมนี่ร้องไห้เลย ไม่อยากให้แกไป ยายผมต้องเดินมาปะเหลาะพี่ทิพย์ บอกให้ผมโตกว่านี้อีกนิดค่อยกลับ ไม่ต้องห่วงพ่อ ทางนั้นมีพี่น้องเยอะแยะ และยายบอกให้แม่ผมขึ้นเงินเดือนให้พี่ทิพย์อีกหน่อย แม่ผมก็ตกลงไม่ได้ว่าอะไร จนพี่ทิพย์ใจอ่อนยอมอยู่ต่ออีกหน่อย แต่พี่ทิพย์ก็ขอลา 5 วันกลับไปเที่ยวบ้านให้หายคิด

ไหว้ขอบารมีให้ท่านช่วย

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว วันนั้นผมกับน้องอีกคนต้องไปธุระที่กรุงเทพฯ ไปวันเดียวกลับไม่ค้างคืน ก็ขับรถจากจังหวัดสุพรรณบุรีไป โดยใช้เส้นทางที่คนแถวนี้น่าจะรู้จักกันดี คือเส้น 340 ครับ ขับไปช่วงเช้าเหตุการณ์ปกติไม่มีอะไร แต่ขากลับซึ่งเป็นช่วงกลางคืนนี่สิครับ ปกติเส้น 340 จะมีบางช่วงที่มีไฟถนน และบางช่วงที่มืด มืดในที่นี้คือมืดชนิดที่ว่า เหมือนเข้าอุโมงเลย แบบซ้ายขวาหน้าหลังมองไม่เห็นอะไร มีแค่แสงสว่างของไฟหน้ารถเท่านั้น เหตุการณ์มันเริ่มตรงผมวิ่งมาทางตรง ที่อีกสักประมาณ 4-5 ร้อยเมตรจะเข้าสู่ช่วงที่ถนนมืด ปกติของคนขับรถทั่วไป จะรู้สึกได้ทันทีหากมีอะไรก็ตามแปลกปลอม หรือมีวัตถุอะไรแปลกๆ อยู่ข้างทางซ้าย-ขวา แม้ว่าจะไม่ต้องมอง แล้วจังหวะนั้นเอง สายตาผมมันก็บังเอิญไปเห็นอะไรบางอย่างตั้งอยู่ตรงไหล่ทางด้านซ้ายมือ มีลักษณะเป็นสีดำๆ เหมือนแท่นอะไรสักอย่าง ด้วยความมืด บวกกับมองด้วยหางตาจึงไม่ชัด กะว่าขับเข้าไปใกล้ๆ อีกสักหน่อยจะมองอีกที.. พอผมขับเข้าใกล้สิ่งนั้นประมาณสัก 3-4 เมตร จึงหันหน้าไปดู ภาพที่เห็นคือเป็นเงาสีดำโปร่งแสง เพราะเห็นหญ้าด้านหลังด้วย ลักษณะเป็นเหมือนครึ่งท่อนล่

กูจะทำให้มึงทรมาน

รูปภาพ
     เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่หนูยังไม่เกิด ยาวมาจนถึงอายุได้ 5 ขวบได้ โดยเรื่องเริ่มจากแม่หนูค่ะ.. สมัยก่อนแม่หนูไม่เชื่อเรื่องผีสาง แถมยังชอบท้าทาย ชอบลบหลู่ มีอยู่คืนหนึ่ง แม่ไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ จนร้านปิด และด้วยความคึกคนอง ก็ชวนกันไปบ้านร้างต่อ ไปท้าทาย ไปลบหลู่สารพัด ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ได้เจออะไรเลย.. จนกลับมาที่บ้าน คืนเดียวกันนั้นเอง ระหว่างที่แม่กำลังอาบน้ำอยู่ แม่รู้สึกเหมือนมีคนมากระชากผมอย่างเเรงจนเซเกือบล้มเลยค่ะ แม่ก็กลัวนะ แต่ยังคิดว่าเป็นเพราะเมา เลยรีบอาบน้ำเข้านอน.. แล้วคืนนั้นแม่ก็ฝันค่ะ ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสวย แต่มีสีหน้าโกรธแค้นมากๆ เธอมายืนเหยียบท้องของแม่เเล้วชี้หน้าพูดว่า ‘กูจะทำให้มึงทรมาน ทำให้มึงเจ็บปวดกว่ากู!’ เเล้วเธอก็หายไปค่ะ.. จนเวลาผ่านไปหลายวัน แม่ก็เริ่มแพ้ท้องหนูค่ะ แล้วตลอดเวลาที่แม่ท้อง แม่ก็มักจะฝันเห็นผู้หญิงคนเดิม มายืนมองอยู่ที่ปลายเตียง ทำสีหน้าเเสยะยิ้ม แต่แม่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะก็เป็นแค่ฝัน.. จนแม่คลอดหนูออกมาค่ะ พอหนูโตขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่น่าแปลกก็คือ หนูหน้าตาไม่เหมือนพ่อเเม่เลย แต่ก

รู้สึกตัวอีกทีนอนอยู่ที่โรงพยาบาล

รูปภาพ
     เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยน่ากลัว เป็นเรื่องกึ่งๆ ความฝัน มาเริ่มกันเลยครับ.. ผมเคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คือขับรถมาตอนกลางคืน ถนนมืด แล้วเจอรถบรรทุกอ้อยไม่มีไฟท้าย เลยทำให้ผมไม่ทันเห็น รถผมเลยชนเข้าไปเต็มๆ สิ่งสุดท้ายที่ผมเห็น คือแอร์แบ็คสีขาวๆ พุ่งเข้าหน้าผม แล้วหัวผมก็โขกเข้ากับพวงมาลัยอย่างแรง แล้วทุกอย่างก็มืดไปหมด..มารู้สึกตัวอีกที ผมยืนอยู่ริมแม่น้ำสายหนึ่งตอนกลางคืน แม่น้ำสายนั้นกว้างมาก ผมไม่เคยเห็นแม่น้ำสายไหนจะกว้างเท่านี้มาก่อน ผมพยายามเรียกสติตัวเอง คิดว่าผมต้องฝันไปแน่ๆ ก็เมื่อกี้ยังขับรถอยู่เลยนี่นา แล้วจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ผมพยายามหยิกแขน ตบหัวตัวเองให้ตื่น แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักพัก มีเรือลำหนึ่งพายมาจอด มีผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงๆ แต่งตัวเหมือนคนสมัยก่อน แต่ไม่ใช่พวกโจงกะเบนอะไรแบบนั้นนะครับ ใส่เสื้อกางเกงเหมือนผมนี่ล่ะ แต่เสื้อผ้าจะเชยๆ หน่อย เหมือนยุคพ่อผมสมัยหนุ่มๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็บอกผมว่าให้ขึ้นเรือ จะพาไปบ้านฝั่งโน้น มีคนรออยู่ ตอนนั้นไม่รู้ยังไง ผมก็ไปเฉยเลย พอผมนั่งเรือ ผู้ชายคนนั้นก็พายเรือออกไปเรื่อยๆ ห่างจากฝั่งออกมา ท้องน้ำก็เริ่ม มืดลงๆ จนมองไม

ยังโอเคไหม?

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ผมอยู่จังหวัดขอนแก่นครับ วันนั้นผมหยุดงานครับ คืนนั้น เพื่อนผมคนหนึ่งมันก็โทรมาชวนผมไปหาอะไรดื่มกัน ผมก็ตกลงไป โดยที่นัด ไอ้เอ็ม เพื่อนอีกคนหนึ่งให้ไปตามไปทีหลัง เพราะมันยังไม่เลิกงาน ผมกับเพื่อนคนแรกดื่มกินกันไปจนกระทั่งราวเที่ยงคืนได้ พนักงานร้านก็มาแจ้งว่าจะปิดร้านแล้ว ผมเลยโทรไปหาไอ้เอ็มบอกว่าไม่ต้องมาแล้ว ร้านจะปิด มันก็โอเคๆ แต่สักพัก มันโทรกลับมาหาผมบอกว่า ‘มารับกูกลับบ้านหน่อย ทำกุญแจรถหายว่ะ..’ ผมก็โอเค เตรียมตัวออกจากร้านไปรับมัน แล้วบอกเพื่อนอีกคนให้กลับก่อนเลย ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับไอ้เอ็ม ผมตอนนั้นสาบานได้เลยว่าไม่ได้เมา เพราะดื่มไปแค่ 2 แก้ว นั่งกินข้าวคุยกันซะส่วนใหญ่.. จนขี่มาถึงหน้าหมู่บ้านของไอ้เอ็ม มันจะมีป้อมยามเหมือนหมู่บ้านทั่วไป ที่มีอะไรมากั้นไว้ ขี่ไปถึงยาม ยามก็จะเลื่อนออกให้ ยามจำเพื่อนผมได้ก็เลยทัก ‘อ้าวเอ็ม วันนี้ให้ใครมาส่ง แล้วรถไปไหน?’ ไอ้เอ็มก็บอก ‘กุญแจหายพี่..’ ก็เออๆ กันตามปกติ แล้วผมก็ขี่เข้ามาต่อ ทางในหมู่บ้านมันจะเป็นทางยาวๆ ไปเรื่อยๆ มีซอยย่อยๆ ให้เลี้ยวเฉพาะทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นป่า มีม้านั่งรอ

ลุงแปลกหน้า

รูปภาพ
     เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ตรงของผมเอง ซึ่งเป็นการเจอเรื่องลี้ลับแบบจังๆ ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเลยครับ.. ย้อนกลับไปกว่า 20 ปีที่แล้ว ผมน่าจะอายุราวๆ 8-9 ขวบได้ ถึงแม้ว่ายังเด็ก แต่ผมก็จำเหตุการณ์ และคำพูดสำคัญในตอนนั้นได้จนทุกวันนี้.. ครอบครัวของผมทำอาชีพค้าขายผักผลไม้ที่ตลาดสด อยู่ในตัวอำเภอเมืองชลบุรีครับ ขายตั้งแต่เช้าจนถึงประมาณหัวค่ำกว่าจะกลับ ด้วยความที่ผมยังเด็ก ทำให้ผมต้องติดสอยห้อยตามพ่อแม่ไปที่ตลาดสดทุกๆ วันด้วย บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังวิ่งเล่นกับเด็กๆ ลูกพ่อค้าแม่ค้ารุ่นราวคราวเดียวกันอยู่ที่ตลาด อยู่ๆ ก็เห็นแม่กำลังเดินมาหาผม ในมือแม่ถือของพะรุงพะรังมาด้วย พอแม่เห็นผมแม่ก็บอกกับผมว่า ‘ไปลูก วันนี้แม่เก็บร้านเร็ว แม่จะไปธุระหน่อย..’ ผมก็ ‘อ้าว กลับแล้วเหรอแม่ กำลังเล่นสนุกๆ อยู่เลย แล้วแม่จะไปไหนล่ะ?’ แม่ก็บอก ‘เออน่า ไปได้แล้ว’ ทำให้ผมจำใจต้องรีบเดินตามแม่ไป ในใจก็หงุดหงิดตามประสาเด็กที่ยังอยากเล่นอยู่ พอเดินตามแม่ไปเรื่อยๆ ก็เห็นพ่อผมคร่อมรถมอเตอร์ไซค์รออยู่แล้ว ผมกับแม่จึงขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของพ่อ แล้วก็มุ่งหน้าไปธุระ ซึ่งในตอนนั้นผมเองก็ไม่เข้า

ผีลักซ่อน

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว เป็นเรื่องของตัวเราเองเมื่ออายุประมาณ 8-9 ขวบ มีครั้งหนึ่งที่บ้านเราต้องไปงานศพที่ต่างจังหวัดกันหมด แม่เลยเอาเราไปฝากไว้ที่บ้านลุง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ บ้านลุงเป็นบ้านใต้ถุนสูงหลังใหญ่ อยู่กันหลายคน มีเด็กรุ่นๆ เดียวกันก็หลายคน เป็นลูกของลุง คือ พี่หวาน เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 15 ปี แล้วก็ นิด กับ น้อย อายุพอๆ กับเรา นิดเป็นผู้ชาย ส่วนน้อยเป็นผู้หญิง ที่เหลือก็จะเป็นลูกคนงานที่มารับจ้างทำสวน ตอนกลางคืนเรานอนกับพี่หวาน เอาฟูกปูพื้นนอนแล้วกางมุ้งคลุม ส่วนอีกมุ้งหนึ่งเป็นย่าวัน (แม่ของลุง) ย่านอนกับนิดและน้อย ส่วนลุงกับป้านอนอีกห้องหนึ่ง ด้วยความที่ตอนกลางวันเราเล่นมาเยอะเลยหลับเร็ว แล้วมารู้สึกตัวอีกทีตอนกลางดึกเพราะปวดฉี่ ปกติตอนอยู่บ้านเราจะนอนกับยาย ยายจะเป็นคนพาไปฉี่ อยู่ที่นี่เราเลยสะกิดพี่หวาน ‘พี่หวานๆ พาหนูไปฉี่หน่อย..’ แต่พี่หวานไม่ยอมตื่น ตอนนั้นคือปวดฉี่มากเลยลุกขึ้นมานั่ง แต่ก็ยังไม่กล้าไปคนเดียวอยู่ดี สักพักเหมือนมีคนมาสะกิดเราจากนอกมุ้ง มองออกไปเห็นนิดนั่งยองๆ อยู่ ถามเราว่า ‘ปวดฉี่เหรอ ปะเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน..’ เราก็รีบ

โชคร้ายเจอคนเมาขับรถกระบะชน

รูปภาพ
     เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมตอนที่ผมต้องเดินทางกลับบ้านแฟนคนเดียว เมื่อสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ย้อนกลับไป พ.ศ. 2552 ผมกับแฟนได้มีโอกาสลางานเพื่อกลับไปหาลูกที่ต่างจังหวัด แต่แม่ยายผมเกิดป่วยกะทันหัน พี่ชายผมเลยพาแฟนผมกลับไปก่อน โดยให้ผมขึ้นรถทัวร์ตามไปทีหลัง หลังจากแฟนผมไปได้ 2 วัน ก็ถึงวันที่ผมจะต้องกลับพอดี วันนั้นเลิกงานบ่าย 3 โมง อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมกระเป๋าเสร็จ ไปขึ้นรถที่หมอชิตก็เกือบๆ ทุ่ม เดินไปซื้อตั๋วได้รถเที่ยวสุดท้ายเลย คือ 3 ทุ่ม ตอนขึ้นรถสังเกตได้ว่าคนน้อยมาก คงเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลด้วยล่ะมั้ง ก็ไม่คิดอะไร พอเด็กรถเอาขนมมาแจกก็ถาม ‘พี่ลงที่ไหนคะ?’ ผมก็บอกชื่อหมู่บ้านแฟนไป น้องรีบยื่นขนมให้แล้วเดินไปเลย ผมก็งง แต่ก็ยิ้มๆ ไปอย่างนั้น และด้วยความที่เหนื่อยจากการทำงาน ไม่นานผมก็หลับไปเลย ตื่นนอนอีกทีก็ใกล้จะถึงหมู่บ้านแฟนผมแล้ว ด้วยความงัวเงียยังไม่ทันตื่นดี เลยรีบหยิบของเดินจะมาลงรถ คนขับถามว่า ‘จะลงตรงนี้เลยเหรอ?’ ผมพยักหน้าตอบ แล้วรถก็จอดให้ผมลง เวลาตอนนั้นตี 4 เกือบครึ่ง ผมลงรถมา อ้าว! นี่มันซุ้มประตูวัดนี่นา ทางเข้าบ้านแฟนต้องเลยไปอีกหน่อย.. ผมสะพายกระเป๋าแล้วเดินไปต่อ

อภินิหารที่พระท่านคุ้มครอง

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของตัวเองค่ะ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 5 เป็นนักศึกษาฝึกสอน หรือเรียกง่ายๆ ว่าครูฝึกสอนนั่นเอง เราได้สอนในโรงเรียนอนุบาลที่มีชื่อและเก่าแก่ แต่สภาพอาคารก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ไม่ได้เก่าอะไร ตอนฝึกสอนก็จะแบ่งนักศึกษาฝึกสอนห้องละ 1 คน ครูประจำชั้น และพี่เลี้ยงอีกอย่างละ 1 คน รวมเป็น 3 คนต่อห้อง ที่ต้องดูแลเด็กประมาณ 25 คน พอฝึกสอนครบ 1 เทอม ก็ต้องย้ายห้อง เทอมแรกเราสอนเด็กชั้นอนุบาล 3 ซึ่งเหตุการณ์ก็ปกติดีไม่มีอะไร แต่แล้วก็มาเกิดเรื่องในเทอมที่ 2 หลังจากที่ต้องย้ายห้องค่ะ จากที่สอนเด็กโตก็มาสอนเด็กเล็กอนุบาล 1 การทำงานของครูฝึกสอน เรียกได้ว่าต้องขยันสุดๆ มาถึงโรงเรียน 6 โมงเช้า กลับบ้าน 6 โมงเย็น เป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน เช้าวันนั้นจำได้ว่าประมาณ 6 โมงครึ่งเห็นจะได้ เพื่อนเราที่ชื่อ โบ ซึ่งฝึกสอนห้องเดิมที่เราเคยฝึก คืออนุบาล 3/6 ก็วิ่งมาหาเราหน้าตาตื่น เราก็ถามว่า ‘เป็นอะไร ทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนี้?’ โบตอบด้วยเสียงสั่นๆ ว่า ‘อยู่ๆ พัดลมในห้องก็หมุนพร้อมกันทั้ง 4 ตัว กระดาษปลิวว่อนเต็มห้องไป

เข็ดไปอีกนาน

รูปภาพ
     เราอาศัยอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษค่ะ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน เรากับเพื่อนคนหนึ่งในหมู่บ้าน จะชอบชวนกันไปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวแถวหมู่บ้าน หรือไปหมู่บ้านอื่นช่วงเวลาหลังเลิกเรียน บางครั้งยังแอบพ่อแม่ขี่ออกไปเที่ยวตอนดึกๆ ก็มี เพราะช่วงนั้นวัยกำลังเกเรค่ะ.. มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนเราคนนี้มันก็โทรมานัดว่าจะออกไปหาพี่สาวที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล พี่สาวมันเพิ่งคลอดลูก เลยจะไปดู ไปผูกแขนรับขวัญหลาน (ประเพณีคนบ้านนอก) ประมาณเกือบ 2 ทุ่มพวกเราก็เดินทางออกจากหมู่บ้านกัน โดยเราเป็นคนขี่ เพื่อนเป็นคนซ้อน หมู่บ้านของพี่สาวเพื่อนเราจะห่างไปประมาณ 5 กิโลเมตร เราไปแบบไม่รีบ ค่อยๆ ขี่ จะบอกว่าเส้นทางสมัยนั้นเปลี่ยวมาก เป็นป่าสลับทุ่งนา นานๆ จะเจอหมู่บ้านที ก็ขี่ไปคุยไปหัวเราะกันไปเรื่อย ตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรเลย จนสักพัก เรากวาดสายตามองไปตามไฟหน้ารถ ไปเห็นเหมือนชายแก่กำลังเดินจากข้างทางมาบนถนน เห็นแต่ไกลเลย เพราะช่วงนั้นมันเป็นทุ่งนา เราขี่ไปใกล้จนจะถึงชายคนแก่คนนั้น สิ่งที่เห็นคือชายแก่คนนั้นล้มตัวลงกับพื้น แล้วคลานบนถนน ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับว่าตัวเองขี่รถช้ามาก ไปไม่ถึงตัวชายคนแก่คนนั้นสักที

หญิงท้องแก่

รูปภาพ
     ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เรากับแฟนทำงานกันที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เลยตัดสินใจหาอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน ก็ไปเจอที่นึง ด้วยความที่ค่าห้องถูก และสะอาด ก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ พอเคลียร์ค่ามัดจำเสร็จสับ ก็ขนของเข้าอยู่เลย อพาร์ทเม้นท์ที่เราพักอยู่จะมีทั้งหมด 6 ชั้น เราได้ห้องอยู่ชั้น 5 ซึ่งเหลือว่างอยู่เพียงห้องเดียว เราเข้าอยู่ได้ 1 อาทิตย์ ก็ไม่มีอะไร พออาทิตย์ที่ 2 ก่อนจะออกไปทำงาน ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น เรากับแฟนกำลังจะเดินลงบันได จู่ๆ ก็มีผู้หญิงท้องแก่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเเซงลงไป เราก็แปลกใจนิดหน่อยว่าผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน? ถ้าอยู่ห้องติดบันได ทำไมไม่ได้ยินเสียงเปิดปิดประตู แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เดินลงบันไดมาจนถึงชั้น 2 ก็เห็นผู้หญิงท้องแก่คนเดิมนั่งร้องไห้อยู่ที่บันได เราจะเข้าไปถามก็กลัวจะถูกหาว่ายุ่ง เลยเดินผ่านเขาไป.. พอผ่านไปอีกวันหนึ่ง ช่วงเวลาเดิมที่เรากับแฟนกำลังจะเดินลงบันไดเพื่อไปทำงาน เราก็เจอผู้หญิงท้องคนเดิมวิ่งแซงลงไป แล้วไปนั่งร้องไห้ที่บันไดชั้น 2 เหมือนเดิม เรากับแฟนเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆ ประมาณ

รอยเท้าทั่วห้อง

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเราเองค่ะ สมัยเราอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อของชีวิต ตอนนั้นเราเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ปี 1 ในจังหวัดสงขลา เป็นมหาวิทยาลัยติดทะเลค่ะ หอพักที่เราพักจะเป็นรูปแบบบ้าน ที่ข้างในเค้าทำเป็นห้องๆ ไว้ มี 3 ชั้น บันไดอยู่ตรงกลาง มีห้องซ้ายขวาฝั่งละ 2 ห้อง เราได้อยู่ห้องซ้ายมือ ซึ่งเป็นห้องติดกับบันไดค่ะ.. เข้าเรื่องเลยนะคะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีซ้อมเชียร์ ซึ่งจะเลิกค่ำมาก ประมาณ 2-3 ทุ่ม เราเป็นคนแพ้เหงื่อค่ะ ซ้อมเชียร์ทุกวันทำให้เราเป็นผื่นทั้งตัว ต้องอาศัยทาแป้งเด็กช่วย แล้วเวลาเราทา แป้งมันก็จะหกลงบนพื้น พื้นเป็นไม้นะคะ บางวันเรารีบ ก็ไม่ได้เช็ดพื้น ปล่อยๆ ไปอย่างนั้น ต้องบอกก่อนว่า ที่นี่ลูกหอทุกคนจะต้องให้กุญแจห้องไว้กับเจ้าของหอ เนื่องจากบางครั้งมีใครลืมปิดไฟ ปิดพัดลม เจ้าของเค้าก็จะมาช่วยดูให้ค่ะ วันแรกที่เราทาแป้ง แป้งมันก็หกเยอะอยู่ ทาเสร็จเราก็แต่งตัวออกไปเรียนเลย ทีนี้พอกลับมา เราเห็นเป็นรอยเท้า เท้าแบบชื้นๆ หน่อย เดินย่ำบนแป้งจนเป็นคราบเต็มไปหมด เราก็ตกใจนะ แต่มานึกได้ว่า เออ..อาจจะเป็นป้าเจ้าของหอเข้ามาก็ได้ล่ะมั้ง เพราะเราชอบลืมปิดพัดลม

ไม่กลับไปเหยียบแฟลตนั้นอีกเลย

รูปภาพ
     เมื่อก่อนครอบครัวเราย้ายบ้านบ่อยมากๆ ค่ะ แทบจะทุกๆ 2 ปี เพราะว่าฐานะไม่ค่อยดี เลยต้องเช่าเขาอยู่ หมดสัญญาก็ย้าย ส่วนใหญ่จะเช่าแฟลต วนๆ ย้ายห้องอยู่แค่ในแฟลตนั้น แต่เหตุการณ์ที่เจอ คือเราย้ายไปเช่าอีกแฟลตหนึ่งข้างๆ กัน เพราะช่วงนั้นแฟลตเดิมหมดสัญญา และหาห้องว่างไม่ได้ อีกแฟลตที่ว่าจะมี 5 ชั้น มีบันไดทางขึ้น 2 ฝั่ง เราอยู่ชั้น 5 ห้องกลางๆ หน่อย ในห้องจะมีชั้นลอย และมีส่วนด้านหลังเอาไว้ทำอาหารหรือซักล้าง เราอยู่กับ พ่อ ย่า และน้องชาย 2 คน (ลูกของอา) โดยทั้งหมดจะนอนรวมกันที่ห้องโถงเลย ส่วนชั้นลอยจะเอาไว้เก็บของ คืนแรกๆ ที่มาอยู่ก็ไม่เจออะไรนะคะ แต่พอผ่านไปได้อาทิตย์ 2 อาทิตย์ก็เจอเลยค่ะ วันนั้นเราทะเลาะกับพ่อ ก็เลยงอนพ่อแล้วแยกไปนอนห่างๆ พ่อจะนอนหันปลายเท้าไปทางทีวี ส่วนเราจะนอนหันข้างให้ทีวีค่ะ กลางดึกคืนนั้น เราก็นอนฟังเพลงไป แล้วเกิดอยากเห็นว่าพ่อทำอะไรอยู่ แต่ด้วยความที่งอนอยู่ กลัวเสียฟอร์ม เลยเอาหูฟังส่อง (หูฟังเราจะเป็นแบบเงาๆ มองสะท้อนได้) เราก็เห็นว่าพ่อนอนหลับอยู่ ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร แล้วทีนี้พอจะเอาหูฟังลง มันก็สะท้อนไปทางตู้เสื้อผ้าข้างทีวี เราสังเกตเห็นเป็นคนยืนอยู่

ผีคู่ผัวเมียออกอาละวาด

รูปภาพ
     ผมเป็นคนลาวโดยกำเนิด บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดนไทย-ลาว ตรงอำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านผมเองครับ ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน บ้านผมเป็นหมู่บ้านชนบท ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางป่า ชาวบ้านเลี้ยงชีพด้วยการทำไร่ไถนา เก็บผัก ล่าสัตว์ เรียกว่าหาเช้ากินค่ำครับ.. ในหมู่บ้านมีผัวเมียคู่หนึ่ง ผัวชื่อ น้อย เมียชื่อ เพา มีลูกด้วยกัน 2 คน อยู่กินกันมาหลายปี ไม่เคยมีผิดใจจนต้องทะเลาะกันร้ายแรง จะมีก็เล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยลงไม้ลงมือ แต่แล้ววันหนึ่ง มีหมอดูมาทักพี่น้อยว่าแกจะมีเคราะห์ในเร็ววันนี้ ร้ายแรงถึงชีวิต และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ คำพูดของหมอดูทำให้พี่น้อยคิดหนัก ถึงกับไม่เป็นอันทำอะไร ด้วยเพราะรักเมียมาก กลัวว่าถ้าตายไปแล้วเมียจะมีสามีใหม่ แล้ววันเกิดเหตุก็มาถึง วันนั้นอากาศร้อนอบอ้าว พี่เพาเกี่ยวข้าวอยู่กลางนา ส่วนพี่น้อยลับมีดพล้าอยู่เถียงนา ลับเสร็จแกก็ถือมีดไปหาเมีย เดินเข้าไปข้างหลัง แล้วฟันลงไปที่กลางหัว!! พี่เพาล้มลงทันที แกฟันซ้ำไปที่คออีกหนึ่งแผล คอแทบขาด เลือดไหลนองเต็มไปหมด จากนั้นก็เดินกลับมาที่เถียงนา มานอนกอดปืนยาว แล้วเอ

กลายเป็นคนเสียสติ

รูปภาพ
     เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมที่ชื่อว่า เบียร์ ครับ ย้อนกลับไปเมื่อปี พศ.2541 ตอนเรียนอยู่ ปวช. ปี 2 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เวลาเลิกเรียน ก่อนกลับบ้านผมกับเพื่อนๆ ก็จะพากันไปนั่งกินข้าวที่ตลาดเป็นประจำ ในกลุ่มพวกผมจะมีแฟนของแต่ละคนมานั่งกินข้าวด้วย (แต่ผมไม่มีนะครับ) รวมทั้งแฟนของเบียร์ที่สวยมาก เป็นระดับดาวอาชีวะเลย แล้วในกลุ่มเพื่อนของแฟนเบียร์ จะมีน้องผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ผิวสองสี เรียนอาชีวะเหมือนกัน นั่งโต๊ะในสุดมองเบียร์ด้วยสายตาเสน่หามาก ด้วยความที่เบียร์เป็นคนปากไว เจ้าชู้ เลยแซวไปเรื่อย รวมถึงน้องคนนี้ก็เช่นกัน พวกผมมองตามเห็นน้องคนนี้ยิ้มดูมีความสุขมากที่ถูกเบียร์แซว.. จนวันหนึ่ง แฟนเบียร์ไม่สบาย แต่พวกผมก็ไปกินข้าวร้านเดิม แน่นอนว่าน้องคนนั้นก็มารอเบียร์อยู่ น้องเดินตรงมานั่งตรงข้ามกับเบียร์ ซึ่งมีผม และไอ้พันนั่งอยู่ด้วย น้องพูดกับเบียร์ว่า ‘พี่คะ หนูชอบพี่มาก หนูรักพี่ พี่เลิกกับแฟนพี่แล้วมาอยู่กับหนูได้ไหม?’ เบียร์ตอบกลับไปว่า ‘พี่มีแฟนแล้วน้องก็รู้ สวยกว่าน้องอีก ไปหาคนอื่นเถอะนะ..’ น้องหน้าเสีย มองหน้าเบียร์เหมือนจะร้องไห้ก่อนจะลุกเดิ