โดนคนแรกเลย


      ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 17 ปีก่อน ผู้ปกครองผมได้นำ ชื่อ วัน/เดือน/ปี เกิดของทั้งบ้านไปให้หมอดูที่จังหวัดสุพรรณบุรีทำนายดวงให้ ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมนั้นคือ ต้องยกผมเป็นลูกบุญธรรมให้ใครสักคนหนึ่ง ซึ่งผู้ปกครองผมได้เลือกบุคคลที่นับถือในการยกผมให้ ตอนนั้นไม่รู้ว่าธรรมเนียมการยกเป็นลูกบุญธรรมนั้นต้องทำอย่างไร จึงเตรียมแค่ พวงมาลัย ธูปเทียนแพ
ไปขอแค่นั้น ณ เวลานั้นด้วยความที่ไม่รู้จึงคิดว่าเป็นอันเสร็จพิธีกรรมจวบจนกระทั่งผม อายุได้ 18 ปี  ผมสอบเข้าได้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ในชั้นปีที่ 1 ต้องไปเรียนที่จังหวัดนครนายก 1 ปี ขณะที่ย้ายของเข้าหอพักนั้นยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะทุกคนต่างขนของเข้าหอกัน เป็นคณะๆซึ่งคณะผมเป็นกลุ่มคณะที่ 2 ในการย้ายเข้า ทำให้มีนิสิตเข้ามาอยู่พอสมควรในช่วงพลบค่ำ เมทผมเริ่มทยอยเข้าห้องพัก แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่รุ่นพี่ได้เล่าสู่บ้าง เล่าว่าในชั้นที่ 5 ของหอที่ผมอยู่เป็นไปได้อย่าขึ้นไปเพราะมีคนตาย บ้างก็เล่าว่าอีกหอหนึ่ง มีผีผู้หญิงกระโดดตึกตายและไม่ไปไหน ทุกคืนจะปีนกำแพงและกระโดดลงมาซ้ำๆ(ผมเรียกว่าผีวนลูป) ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะผมเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวอะไรเหล่านี้เท่าไหร่ สภาพห้องที่ผมอยู่นั้น อยู่ติดบรรไดหนีไฟของตึกและอยู่หน้าห้องน้ำรวม (เป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีเท่าไหร่ 55) เปิดประตูเข้าไปทางด้านขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า 5 ตู้สำหรับนิสิต แต่จะเว้นระยะห่างของตู้แรกกับประตูเป็นซอกเล็กน้อยเพื่อให้ประตูสามารถเปิดได้ ด้านขวามือ จะเป็นเตียงเดี่ยว 3 หลัง เตียงสองชั้น 1 หลัง ระหว่างเตียงจะมีโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับนิสิตทุกคน ด้านหลังห้องเป็นระเบียงชมวิวอันสวยงาม มีเมทคนหนึ่งเล่าว่า ให้ทำการซื้อตู้ เตียง โต๊ะเขียนโดยการนำเหรียญบาทและทำการอธิฐานว่าเราขอซื้อของเหล่านี้เพื่อการอยู่อาศัยและเมทผมยังบอกอีกว่าถ้าวันใดที่ไม่มีคนนอนบนเตียงนั้นๆให้หาของมาวางบนเตียงเพื่อไม่ให้สิ่งที่เรามองไม่เห็นมานอนแทนได้ ส่วนใต้เตียงก็หาของมาวางซะผมจำได้เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเมททุกคนปิดไฟนอนกันหมด น่าจะหลัง 4 ทุ่ม ผมก็นอนของผมไปผมนอนอยู่เตียงที่ 3 ถ้านับจากหน้าประตู จนกระทั่งผมฝัน หรือกึ่งหลับกึ่งตื่นไม่ทราบว่าอยู่บนเตียงที่ผมนอนอยู่ ไม่สามารถขยับตัวได้ ผมเห็นเงาดำๆ อยู่บริเวณซอกระหว่างประตูและตู้เสื้อผ้า ผมมองไม่เห็นสีสันใดๆ แต่ที่เห็นแน่ชัดคือ เขาสวมชฏาอยู่บนศีรษะ พอผมเห็นดังนั้นผมจึงได้ยินเสียงฉิ่งที่ดังมาก เหมือนอยู่ข้างหูเลย เงาดำนั้นเริ่มรำแต่ไม่ได้รำสวยงามมาก ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องผีคนเป็นแล้ว ก็แบบนั้นเลย ทุกช่วงที่เงาดำนั้นเดินมาเสียงฉิ่งยิ่งรัวเร็วขึ้น และดังขึ้นเรื่อย จนกระทั่งเงาดำนั้นมาอยู่ที่ข้างตัวผมและชโงกหน้าแทบจะแนบชิดกับใบหน้าผม ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้น บรรยากาศภายในห้องยังเหมือนเดิม ยังคงมีแต่เสียงพัดลมดังหึ่งๆ อยู่บนเพดานเช้าขึ้นมาผมได้เล่าเรื่องนี้ให้เมทฟัง ทุกคนก็ลงความเห็นว่า “โดนแล้ว”ทุกวันนี้เสียงฉิ่งที่กระทบกันผมยังจำได้ฝังใจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง