ไม่มีวันไหนที่ไม่โดนผีหลอก


       เรื่องมีอยู่ว่า…เราย้ายมาทำงานที่พัทยา เราทำงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ตอนที่ย้ายมาใหม่ๆเราไม่ค่อยจะมีเงินเช่าห้องดีๆอยู่ เราเลยตัดสินใจไปเช่าห้องแบบแบ่งให้เช่า คือข้างล่างเค้าจะทำเป็นบาร์ ข้างบนจะแบ่งเป็นห้องเล็กๆให้คนเช่าอยู่ ราคาค่าเช่าก็ตกเดือนละพันห้าร้อยบาทน้ำไฟฟรี เราเห็นว่ามันถูกดีเราเลยไปเช่าอยู่คืนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น รึอาจจะเพราะเราทำงานเหนื่อยก็ไม่รู้นะ คืนแรกหลับสบายแต่คืนที่สอง….ความสยองก็เข้ามา! เราเลิกงานเที่ยงคืนกลับถึงห้องก็อาบน้ำกำลังจะนอนแต่ยังไม่หลับเพราะเสียงเพลงที่บาร์มันดังขึ้นมาข้างบนเบาๆ เราเลยนอนเล่นมือถือเล่นไปซักพักเราได้ยินเสียงเล็บขูดกับฝาห้อง ( เค้าใช้ไม้อัดมาแบ่งเป็นห้องๆเพื่อให้คนเช่า )เสียงขูดฝาห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆซักพักก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินไปเดินมาเราคิดว่าสงสัยจะมีคนมาเช่าห้องข้างๆเรามั้ง เราก็เล่นมือถือต่อไม่ได้คิดอะไรจนตีสองบาร์ปิดเพลงทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงเล็บที่ขูดฝาห้อง! เสียงนี้กลับมาอีกแล้ว เราพยายามจะไม่คิดและเริ่มพยายามจะหลับตา ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองหลับยิ่งดึกเสียงเดินไปเดินมายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆเสียงเดินพร้อมกับเสียงเล็บขูดข้างฝาห้องเราเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เริ่มสวดมนต์ทำจิตใจให้สงบ เสียงเดินและเสียงเล็บเริ่มค่อยๆหายไป!ในใจก็คิดว่าใช่แน่ เจอดีเข้าให้แล้ว! เราเผลอหลับไปตอนใหนไม่รู้รู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีเสียงเด็กมาเรียก พี่ๆตื่นๆไม่ไปทำงานหรอ? เสียงเรียกแววๆ ในหูเราสะดุ้งตื่นนอน เช้าแล้วนี่เรารีบอาบน้ำไปทำงาน(เช้าของเราคือเที่ยงวันนะ )วันนั้นทั้งวันเราคิดแต่เรื่องเดียวว่าสิ่งที่เราได้ยินมันคือเสียงคนข้างห้องหรือเสียงอะไรกันแน่?!คืนนี้เราต้องได้รับคำตอบให้ได้ เลิกงานกลับถึงห้องเที่ยงคืนกว่าๆ เรารีบอาบน้ำรีบเข้าห้องนอน เราหยิบมือมาเล่นเกมเสียงเพลงจากบาร์ดังมาเบาๆเราเล่นเกมในใจก็คิดว่าอย่ามีอะไรผิดปกติอีกเลย ตีสองผ่านไปเสียงเพลงเงียบลงเสียงปิดประตูบาร์ดังขึ้นนั้นแสดงว่าตอนนี้จะมีแค่เราเท่านั้น เพราะทั้งตึกมีเราอาศัยอยู่แค่คนเดียว ห้องอื่นๆ ไม่มีคนเช่าทุกอย่างเงียบสงบ! เสียงเล็บขูดกับฝาห้องก็ดังขึ้นทีนี้เราขนลุกสิในใจก็คิดว่าจะมาทำไมเรากลัวนะ!ความคิดหยุดลงทันใดนั้น!เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นข้างหูเรามันเป็นเสียงที่เย็นเยือก ขนหัวเราตั้งแบบไม่ได้นัดหมาย ใช่และชัวร์เลยสิ่งที่เราคิดถูกหมดทุกอย่างเสียงเดินที่ได้ยินเสียงเล็บที่ขูดไปกับข้างฝาเราไม่ได้คิดไปเอง และทุกครั้งที่ได้ยินเราจะยังไม่หลับ จะมีก็แค่เสียงเด็กมาปลุกตอนเที่ยงๆเท่านั้นที่ได้ยินตอนหลับ เราไปทำงานตามปกติทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนวันหนึ่งเราไม่สบายเป็นไข้ปวดหัวมากเรากึ่งหลับกึ่งตื่น สายตาเราก็ไปสบตาคู่หนึ่งเป็นผู้หญิงผมยาวๆใส่ชุดเก่าๆลอยอยู่บนเพดาน เค้าลอยลงมาๆ จนตัวเราจะติดกันอยู่แล้วสายตาเราจองมองกันและกัน พลันเราก็พูดขึ้นว่า“พี่ๆอย่ามาหลอกหนูเลยวันนี้หนูไม่สบายปวดหัวมากหนูกลัว” เราพูดจบมือของเธอก็มาแตะที่หัวเรา อาการปวดหัวเราหายไปเฉยๆและเธอก็หายไปต่อหน้าต่อตาเรา เราหลับทั้งๆที่กลัวจนแทบสิ้นสติ ตื่นอีกทีก็เช้าของอีกวัน อาการปวดหัวตัวร้อนก็หายไป เราเลยไปใส่บาตรระลึกถึงเธอผู้นั้นให้ได้บุญที่เราทำในวันนี้ เรากลับห้องมาด้วยจิตใจกล้าหาญมากขึ้น เอาความกลัวทิ้งไปให้หมดเท้าเราก้าวขึ้นบันใดที่ละก้าวเสียงเหมือนมีคนเดินตามมาทีละขั้นบันใด ตอนนี้ความกลัวหมดไปแล้วเหลือแต่คำสัญญาสงบการหลอกหลอน เราพูดขึ้นดังๆว่า“เรามาจากต่างจังหวัดเราไม่มีที่ไปเราขออยู่อาศัยหลับนอนโปรดอย่าได้มาเบียดเบียนกันเลย ให้ต่างคนต่างอยู่ถ้าอยากหลอกก็ขอให้มาในรูปแบบของเสียงอย่ามาให้เห็นเป็นตัวเลยเราจะหมั่นทำบุญไปให้ เริ่มคืนนี้นะขอบคุณค่ะ”เราอาศัยอยู่ที่นั่นยาวนานถึงห้าเดือนเต็มๆ ยังมีอีกเยอะมากที่อยากเล่าตลอดเวลาห้าเดือนไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่โดนผีหลอก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง