คุณตาที่ช่วยชีวิต


      สวัสดีครับ วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เราได้เรียนอยู่ชั้นมัธยม ช่วงนั้นเราจะฝันแปลกๆอยู่บ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังจะจบชั้นมัธยมต้น คืนก่อนที่จะถึงวันปัจฉิม เราได้ฝันเห็นบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง สวยและใหญ่มาก เราเห็นมีคนแก่และเด็กอยู่บนบ้านทรงไทยหลังนั้น พวกเขาพยามเรียกเราขึ้นไปบนบ้าน หลังจากนั้นเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เริ่มเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เหตุการณ์ที่จะเล่านี้เกิดกับเราเองเลยค่ะ อาจจะฟังดูแปลกดูเหลือเชื่อ โดยจะแบ่งเป็น 3 ช่วงเวลาที่ต่างกัน มาในรูปแบบของความฝันล้วนๆ ไม่มีตัวตน แต่เราสัมผัสและจำมันได้ดี เพราะมันเกือบจะพรากชีวิตของเราไปจากครอบครัวเลยทีเดียว ครั้งแรกคือตอนเราใกล้จะจบ ม.3 ย้อนไปก็ราวๆ 8-9 ปีที่แล้ว และนี่คือจุดเริ่มต้นค่ะ คืนก่อนวันปัจฉิม เราฝันว่าเราขี่จักรยานเข้าไปในป่า ขี่เข้าไปเรื่อยๆ ไปพบลานโล่งๆ กว้างๆ มีบ้านทรงไทยหลายหลังมาก สวยๆ ทั้งนั้น ผู้คนที่นั่นดูมีความสุข ยิ้มแย้ม และคุยกันเสียงเซงแซ่ แต่เราจับใจความไม่ได้ จนเราไปเจอบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง ที่หลังใหญ่กว่าทุกๆ หลัง ทันใดนั้น ก็มีคนแก่ชายหญิง และเด็ก กวักมือเรียกเรา พูดว่า ‘ขึ้นมาสิ มาเล่นด้วยกัน..’ ในฝันเราก็ขึ้นไปนะ ขึ้นไปทำไมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน จนเกือบถึงบันไดขั้นสุดท้าย และตอนนั้นเอง ก็มีเสียงคนแก่อีกคนซึ่งไม่รู้ว่าใคร ร้องขึ้นว่า ‘มึงจะขึ้นไปทำไม ลงมา! แล้วกลับบ้านมึงไป จะมืดอยู่แล้วจะไปเล่นทำไม?’ ด้วยความที่เรากลัว เลยรีบลงไปจากตรงนั้น ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา.. และในวันรุ่งขึ้น หลังจากงานปัจฉิมเสร็จ เรากำลังจะเดินไปขึ้นรถรับ-ส่ง เราก็ถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวอย่างแรง ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นตอนปัจฉิมเหมือนกัน แต่เป็นตอนปัจฉิม ม.6 เราฝันแบบเดิมเลย แต่คราวนี้ต่างจากคราวที่แล้วคือ เราขึ้นไปบนบ้านหลังนั้น อยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย ก็มีเสียงคนแก่คนแทรกมาว่า ‘อย่าเข้าไป! ห้ามเหยียบเข้าไป!’ พอสิ้นเสียงนั้น คนแก่กับเด็กที่อยู่ในบ้านนั้นก็มาดึงมือเราอย่างแรง บอกว่า ‘คราวที่แล้วกูเอามึงไม่ได้ คราวนี้กูต้องได้!’ และด้วยความที่เรากลัวสุดขีด เราเลยนึกถึงพ่อกับแม่ แล้วสักพักก็เป็นพวกท่านที่มาดึงแขนอีกข้างของเราไว้ เหมือนชักเย่อน่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่เราเหมือนจะดึงไม่ไหว และเราก็กำลังจะเข้าไปบนบ้านหลังนั้นด้วยแรงดึงของคนแก่ทั้งสองและเด็ก แต่แล้วจู่ๆ ก็เหมือนมีแรงที่เยอะมากๆ มากระชากเราจนลงจากบ้านได้ แล้วเสียงนั้นก็ดังอีกครั้งว่า ‘ตาช่วยมึงไม่ได้ตลอดหรอกน่ะ!’ แล้วเราก็ตื่น.. เรารีบไปเล่าให้แม่ฟัง สรุปวันนั้นแทนที่จะได้ไปงานปัจฉิม เรากลับต้องไปวัดแทน ครั้งที่ 3 เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนวันเกิดเราปีที่แล้วนี่เอง แต่ครั้งนี้พีคมาก คือเราโดนอำค่ะ แบบท่านอนตะแคง หูยังได้ยินเสียงทีวีที่เปิดไว้ เป็นรายการที่ชอบดู แต่ตากับตัวมันขยับไม่ได้เลย เราก็ท่องคาถาที่เคยอ่านในหนังสือของตา ก็ไม่สำเร็จ เราเลยนึกถึงตาที่เสียไป จนสักพัก มีเสียงคนแก่แหบๆ เหมือนมาพูดข้างๆ หูว่า ‘จำไว้..กูจะเอามึงไปแน่ เมื่อใดที่มึงไม่มีใครคุ้มครอง’ แล้วจากนั้นเราก็หลุดค่ะ พอหลุดมาได้เราร้องไห้เลย โทรไปเล่าให้แม่ฟัง (ช่วงนั้นไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว) แม่ก็บอกว่าให้ไปทำบุญแถวนั้นก่อน แล้วรีบกลับมาบ้าน จากนั้นเราก็ไปทำบุญตามที่แม่บอก และหาหลวงตาเล่าให้ท่านฟัง ก็เลยได้ทำพิธีต่อชะตา สะเดาะเคราะห์ด้วย พอกลับไปบ้าน แม่ก็พาเราไปถือศีลอยู่อาทิตย์หนึ่ง หลังจากนั้นมาถึงปัจจุบันเกือบปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรแปลกๆ อีก ซึ่งเราก็หวังว่าคงจะไม่ต้องพบกับความฝันที่น่ากลัวแบบนั้นอีก..ลืมบอกไปว่าคุณตาของเราที่เสียไป ท่านเคยเรียนมนต์ทางสายขาวมาค่ะ ท่านเลยมีวิชา และท่านก็รักเรามาก อาจจะเป็นตาที่คอยคุ้มครองเราอยู่ เราเลยไม่เป็นอะไร ถ้าไม่มีตาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เราจะเป็นยังไง ขอบคุณตาด้วยนะคะ..


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง