เข้าใจผิดมาตั้งนาน


      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งสนิทกันมาก แต่พอพวกเราเรียนจบ ป.6 ก็ได้แยกทางกัน โดยเพื่อนของเราได้ไปอยู่กับพ่อแม่ที่ชลบุรี ส่วนเราได้ไปเรียนต่อที่เชียงใหม่ จนมีอยู่วันหนึ่ง ย่าของเพื่อนเราได้ป่วยเข้าโรงพยาบาล เพื่อนเราจึงได้กลับมา เราก็ได้กลับมาเหมือนกัน เพราะด้วยความที่อยากเจอเพื่อน โดยวันนั้นเพื่อนมันได้ชวนเราไปนอนเป็นเพื่อน เพราะพ่อได้ไปนอนเฝ้าย่าที่โรงพยาบาล เราก้ตอบตกลงไป และหลังจากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก้เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า...เรามีเพื่อนที่สนิทกันมากๆคนหนึ่ง เราชอบเรียกมันว่า "อีแห้ง" เพราะมันผอมและตัวเล็กมาก พอจบป.6 มันก็ตามไปอยู่กับพ่อแม่ที่ชลบุรี มันกลับมาบ้านย่าแค่ 2ครั้งในรอบ 6 ปี ละวันหนึ่ง มันบอกพรุ่งนี้จะกลับบ้านย่าเพราะย่าไม่สบาย แต่อยู่แค่ 3 คืน ก็กลับแล้วเพราะใกล้จะสอบเราก็ลังเลอยู่ว่า จะกลับบ้านมั้ย เราเรียนเชียงราย แต่เป็นคนลำปาง แต่เพื่อนกลับมาทั้งทีอยากเจอ เลยกลับบ้าน มันบอกให้ไปนอนเป็นเพื่อนหน่อยยายได้นอนที่รพ. พ่อต้องไปเฝ้า เราก็ตอบตกลงเพราะหมู่บ้านอยู่ติดกัน แต่เราก็ไม่เคยไปนอนบ้านมันนะ คืนนั้นฝนตกตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนเกือบตี1 ก็ไม่หยุด เรากับมันก็ยังไม่นอนจนอยู่ดีๆไฟดับ บ้านอื่นก็ดับ ก็เลยคิดว่างั้นนอนกันดีกว่า ไม่รู้ว่าเผลอหลับตอนไหน สดุ้งตื่นอีกทีตอนได้ยินเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ฝนตกอย่างหนัก อารมณ์คนตกใจตื่นอ่ะ ตามันก็จะริบหรี่หน่อย มองอะไรก็เบลอไปหมดและห้องมืด+เสียงฝน+เสียงฟ้า+ห้องเย็นๆ หางตาเราเหลือบมองไปตรงปลายเตียง ซึ่งจะมีตู้เสื้อผ้าติดอยู่กับปลายเตียงเราสังเกตุเห็นเหมือนเงาดำๆ แต่ไม่ชัด เราก็เลยหันไปมองตรงๆเห็นเหมือนมีคนกำลังนั่งกอดเข่าอยู่ ซึ่งภาพที่เห็นเป็นลักษณะ ผญ. ค่อนข้างชัดเลยแหละ เพราะแสงจากสายฟ้ากระทบกับกระจกบานเกล็ดแต่ละครั้งก็ยังเห็นลักษณะเดิม ด้วยความง่วงเลยไม่ทันคิดอะไรตอนนั้น ไม่คิดแม้แต่จะมองว่าเพื่อนนอนอยู่ป่าวหรือว่าละเมอไปนั่งกอดเข่าตรงปลายเตียง สดุ้งตื่นอีกทีฟ้าสร่างแล้ว เช้าแล้วหันข้างไปหาเพื่อนมองไป แต่ไม่มีใครนอนอยู่ เราก็ว่ามันตื่นแล้ว สักพักเราก็ลุกออกจากห้องเจอมันกำลังเดินเข้าบ้านมาพอดีเลยถามไปว่า เรา : เมิงตื่นเช้าจัง พึ่ง 6 นิดเดียว เพื่อน : กูไม่ได้ตื่นเช้า ตอนอยู่ในห้องกูยังไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ เรา : (งงหนักมาก คือไร แต่ก็ไม่ถาม ) หราาา นอนละเมอไปนั่งปลายเตียงเลยนะเมิงไม่ได้นอน หึๆ เพื่อน : เมิงงง ฝันป่ะ ตอนเมิงหลับไปแปปเดียว ป้ากุโทรมา (ป้าที่อยู่บ้านติดๆกัน) บอกว่าหมอจะส่งย่าไปรพ.ในเมือง พ่อกุก็เลยบอกให้กุเก็บของเสื้อผ้าไปให้ป้า พอจะกลับฝนตกหนักมาก ฟ้าร้องด้วย ย่ากุก็พึ่งถูกส่งตัวไปก่อนหน้านี้เองเลยพึ่งได้กลับบ้าน เรา : (อึ้งไปสักพัก แล้วที่เราเห็นละ ?? ) สรุปเมื่อคืนกุนอนในบ้านนี้คนเดียว? เพื่อน : เอ่อใช่ดิ ทำไม เมิงเห็นจริงๆหรอ เรา : กุก็ไม่รู้ จริง รึกุฝัน 55555 (หัวเราะกลบเกลื่อน) แต่ที่แน่ๆ เราไม่ได้ฝันแน่นอน สัญชาตญาณคนเราจะบอกได้ว่าฝันหรือจริง แล้วมันไปเยี่ยมย่าที่รพ.ลำปาง วันต่อมามันก็ขึ้นรถกลับชลบุรีคนเดียว เพราะพ่อยังกลับไม่ได้จนเมื่อเช้าเราได้โทรไปเล่าเรื่องคืนนั้นให้มันฟัง มันบอกมาประโยคหนึ่งแล้วทุกอย่างจบเลยมันบอกว่า “ไม่ใช่เมิงคนเดียวที่เห็น พ่อกับแม่กุเพื่อนกุก็เห็นบ่อยๆ บางทีนั่งบนตู้เสื้อผ้าก็มีกุไม่อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ที่แน่ๆเขาไม่เคยทำร้ายหรือทำให้กุเป็นอันตรายเลยแต่กุไม่เคยเห็นเขา แต่กุทำบุญให้เขาตลอดอ่ะตั้งแต่ที่รู้” มันตอบมางี้ ยังไงก็ช่าง การที่มันไม่เห็นอ่ะดีแต่คนอื่นเห็นนี่สิ เราก็มาคิดนะว่า ถ้าคืนนั้นเรามองไปดูมันละไม่เห็นมันนอนอยู่เราอาจจะลุกไปเรียกคนๆนั้นเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนเราที่ละเมอล่ะ จะเกิดไรขึ้นกับเรา ถ้าเราเห็นเงานั้นบวกกับเห็นเพื่อนนอนอยู่ละ จะเป็นยังไง ดีแค่ไหนที่เราไม่คิดอะไรแล้วหลับไป..

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง