หากบแต่เจอกระสือ


      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งก็ผ่านมานานพอสมควร ผมเป็นคนสุรินทร์นะครับ ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่หากินเองได้ ไม่ต้องไปซื้อกับข้าวกับปลา มีอยู่คืนหนึ่ง พ่อได้พาผมไปหากบ หลังจากที่เราสองคนกำลังหากบ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เริ่มเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...บ้านผมอยู่จังหวัดสุรินทร์ครับ คนสุรินทร์เราก็จะพูดกันหลายภาษาแล้วแต่สภาพแวดล้อม มีทั้ง เขมร ลาว ส่วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาไทยกับภาษาเขมรนี่แหละ ส่วนผมนั้นก็พูดได้ทั้งไทยและเขมร ผมใช้ชีวิตอยู่แบบเด็กบ้านนอกทั่วไปกับ ข้าวก็กินง่ายๆไม่ค่อยซื้อหรอก หาปูหาปลาหากบหาเขียดกินไป (อิ่มเหมือนกันนะแถมอร่อยด้วย)มีอยู่ครั้งหนึ่งผมจำได้ขึ้นใจ วันนั้นพ่อพาผมไปส่องกบ ตอนนั้นมันดึกมาก แต่ถ้าถามว่าผมกลัวผีมั้ยบอกเลยว่าไม่ แต่ก็ไม่ลบหลู่นะ บรรยากาศตอนที่ฝนตกเสร็จนี่กบจะออกมาร้องกันระงมซึ่งผมก็มาหากบกับพ่อแบบนี้เป็นประจำ ผมมัวแต่ตั้งใจหาจนเดินไปชนพ่อ “โอ้ย” ผมร้องเสียงหลงเพราะดันชนข้อศอกพ่อเข้าให้ “ชู่ววว” พ่อหันมาทำเสียงเป็นการส่งสันญานว่าให้เงียบๆผมมองหน้าพ่ออย่าง งงๆ ในความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากแบตที่เราใส่ไว้บนหัวเท่านั้นที่ทำให้เรามองเห็นทางได้ แต่พ่อกลับปิดไฟทั้งของพ่อแล้วก็หันมาปิดของผมด้วย ผมงงมากยังไม่ทันได้ถามอะไรผมก็ต้องนั่งลงตามแรงกดจากพ่อ “เงียบๆ เห็นนั่นมั้ย” ผมลองมองดูรอบๆ ก็ไปเห็นแสงไฟสีแดงๆส้มๆสลับกับสีเขียว มันไม่ใหญ่มากเพราะเหมือนมันอยู่ไกลจากเราพอสมควรแต่มันไม่ได้อยู่กับที่ มันสว่างสักพักก็ดับ ดับไปพักหนึ่งสักพักมันก้อสว่างอีกแต่ไปโผล่อีกที่ซึ่งที่ที่มันไปโผล่มันห่างจากที่มันอยู่ตอนแรกมากแปลว่ามันต้องลอยเร็วพอสมควร“แสงอะไร” ผมถามพ่อเบาๆ “กระสือ มันมาหากินของเน่ากินกบกินเขียด อยู่เงียบๆอย่าส่งเสียงดังถ้ามันได้ยินมันจะไล่เอา” ผมตกใจมาก ใจสั่นเลยตอนนั้น เคยได้ยินแต่พึ่งเคยเจอกับตัวก็ครั้งนี่แหละตื่นเต้นสุดๆเลย (หราาา) ผมกับพ่อนั่งมองอยู่นานสักพักแสงนั้นมันหายไป หายไปนานมากผมคิดในใจหรือมันจะไปแล้ว พรึ่บ แสงไฟนั้นมาโผล่ตรงหน้าผมกับพ่อ “เห้ยย” ผมตกใจมาก มันไม่ได้อยู่ใกล้มากขนาดนั้นแต่ก้อไม่ห่างจากเราเท่าไรแล้วเหมือนมันกำลังมุ่งหน้ามาทางเรา พ่อจับมือผม “วิ่งงงง” ใส่เกียร์หมาเลยครับทีนี้ วิ่งสุดชีวิต มันลอยตามมาด้วย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าผมจะโดนผีกระสือไล่ พ่อบอกให้วิ่งไปคนละที่หาทางมุ่งหน้ากลับบ้าน ผมกับพ่อปล่อยมือกันแล้ววิ่งหนีสุดชีวิต มันตามผมครับ ณ เวลานั้นผมอยากร้องไห้มากเลย ผมวิ่งจากทุ่งนาไปบ้านซึ่งมันไม่ได้ไกลเท่าไรเลยนะแต่ทำไมวิ่งไปไม่ถึงบ้านซักทีวะเนี่ย ผมวิ่งด้วยหันไปมองด้านหลังด้วยแสงนั่นหายไปแล้ว พ่อก็วิ่งตามผมมาติดๆ แล้วอีกนิดก็ถึงบ้านพอดี รอดแล้วโว้ย ผมนี่โคตรดีใจเลย และนี่คือประสบการณ์ของผมที่ครั้งหนึ่งเคยโดนผีกระสือไล่ มันตื่นเต้นมาก ใจนี่เต้นตุ้บๆเลยแต่สิ่งที่ผมยังคาใจอยู่ก็คือ มันหายไปไหน ผมได้คุยกับพ่อ พ่อบอกว่ามันเห็นแสงไฟจากบ้านคน มันเลยไม่ตามละมั้ง ซึ่งไม่รุ้ว่าจริงรึเปล่า ผมก็งงเหมือนกัน แต่แค่รอดมาผมก็ดีใจแล้วครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง