วิญญาณที่ต้นยูคาลิปตัส


      วันนี้ก็มีเรื่องเล่าของบุคคลท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่า...เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมได้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมอยู่หอที่ติดกับกำแพงมหาวิทยาลัยเลย ทุกๆคืน เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ผมมักจะขี่จักรยานออกไปเล่นเกมที่ร้านเกมทุกวัน จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมก้ได้ไปเล่นเกมเช่นเคย แต่ตอนขากลับหอ ก็ได้เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า...สมัยที่เรียนอยู่ ม.อุบลราชธานี ตอนนั้นผมพักอยู่หอพักแห่งหนึ่งที่ติดกับกำแพงมหาลัยด้านนอก วันนั้นตอนเวลาประมาณห้าทุ่มกว่า วันนั้นคืนเดือนหงาย แสงจันทร์ค่อนข้างสว่าง ภารกิจของผมช่วงนั้นคือขี่จักรยานออกไปเล่นเกมที่ร้านเกมหน้ามอประจำ แล้วก็จะกลับมานอนราวๆตีสอง เพื่อเตรียมตัวไปเรียนในวันรุ่งขึ้น ทางเข้าหอพักจากถนนใหญ่จะเป็นทางลูกรังยาวไปจนผ่านหน้าหอไม่มีไฟถนนเพราะอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มาก คืนวันนั้นผมก็ออกไปเล่นเกมตามปกติ ขากลับตอนผมขี่รถไปจนจะถึงทางโค้งก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าหอไม่ไกลนักแถวนั้นจะมีต้นยูคาลิปตัสขนาดใหญ่เกิดอยู่ริมทางตรงหัวโค้งพอดี ตอนผมขี่จักรยานผ่านไปใกล้โค้งนั้น ผมสังเกตเห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ดูเป็นผู้ใหญ่รุ่นพ่อคนใส่ชุดสีขาวแขนยาว กางเกงขายาว(มองแบบผ่านๆ) เขายืนนิ่ง หันหลังให้ถนนหันหน้าออกไปทางป่าริมกำแพงมหาลัย ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคงเป็นใครสักคนเมาแล้วมาฉี่แถวนั้น พอถึงหน้าหอพัก ด้วยความสงสัยจึงจอดรถแล้วเดินไปดูจุดที่ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่อีกที พอผมสังเกตดีๆ ผมนี่ขนลุกเลยเพราะมองไปทางร่างเขาภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ร่างของผู้ชายคนนั้นไม่มีเท้า…..…. ใช่ครับ ไม่มีส่วนเท้า มีแต่กางเกงขายาวสีขาวแล้วพอถึงส่วนหน้าแข้ง มันก็ว่างเปล่า ทันใดนั้นเองร่างนั้นก็หันมองมาทางผมพร้อมด้วยแสงจากตาของเขาสว่างวาบ!เหมือนสุนัขโดนฉายไฟใส่ ผมรีบวิ่งขึ้นบนห้องแบบไม่คิดชีวิต นอนมุดผ้าคลุมโปงอยู่ทั้งคืนนี่มันอะไรกัน….คนไม่มีเท้า หรือเราจะเจอดีเข้าให้แล้ว…..เขาจะมาหาเราถึงห้องไหมนะคิดไปกลุ้มไปจนกระทั่งเช้า ผมก็ลงไปหาอะไรกินด้านล่างหอปกติ พอเจ้าของหอพักเดินมาเจอผม แกก็หัวเราะ แล้วถามผมว่า”เจอเหมือนกันเหรอ?”ผมเลยถามเจ้าของหอว่ารู้ได้ไง เขาบอกว่าที่ผมเจอนั่นเป็นวิญญานของอาจารย์ท่านหนึ่งในมหาวิทยาลัย แกมักจะปรากฏตัวในคืนเดือนหงาย อาจารย์ท่านนี้ประสบอุบัติเหตุหลบรถที่แล่นสวนมา จนรถของท่านพุ่งชนเข้ากับต้นยูคาลิปตัสบริเวณโค้งนั้นอย่างจัง ทีนี้ปัญหามันมีอยู่ว่า ไม่มีลูกหลานหรือญาติของท่านมารับศพไปบำเพ็ญกุศลเลย ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องทำพิธีฌาปณกิจศพให้เอง ทุกวันนี้วิญญานของท่านก็ยังสถิตอยู่แถวนั้นไม่ยอมไปไหน แล้วเจ้าของหอพักก็บอกว่าให้ผมเดินไปดูตรงที่เจอวิญญานท่านเมื่อคืน พอผมเดินไปดูก็เจอรอยที่ต้นไม้โดนรถชนจริงๆ หลังจากนั้นผมก็ไปเข้าวัดและถวายสังฆทานพร้อมกับบอกท่านว่าขออย่าให้ได้เจอกันอีก ผมกลัว แล้วผมก็ไม่ได้เจอท่านอีกเลย เหตุการณ์นั้นทำให้ผมได้รู้ว่า วิญญานนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตรงกันข้าม พวกเขาน่าสงสารมากกว่า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง