ลูกแฝดของแฟน


     เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา สมัยนั้นผมเรียนอยู่ปี 2 ที่สถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งย่านจัตุจักร ก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งที่พึ่งจบ ม.ปลายมาสมัครเรียน ผมบังเอิญเจอตอนพักเที่ยงพอดีครับ น้องเค้ามาถามทางไปห้องจำหน่ายใบสมัคร ลักษณะของน้องคือ ขาว หมวย สวย น่ารัก สเปคผมเลย ผมก็เลยใช้โอกาสนี้ขอเบอร์ซะเลย หลังจากนั้นผมก็โทรไปจีบเลยครับ จีบได้สักพัก จนสุดท้ายก็ได้คบกันเป็นแฟน ซึ่งก็ไปกันได้ดีทีเดียว คบกันไปได้ประมาณ 2 เดือน ช่วงนั้นพวกเรากลับบ้านดึกกันทุกวันเลย จนมีอยู่วันหนึ่งน้องก็ชวนผมไปนอนที่บ้านตอนกลางคืนครับ ประมาณ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน หมู่บ้านของน้องเค้าเป็นหมู่บ้านใหญ่ สมัยนั้นยังเป็นถนนเล็กๆ 2 เลน ข้างทางเป็นทุ่งหญ้าทุ่งนา และต้นไม้ ตอนกลางคืนเงียบและก็น่ากลัวสุดๆ ครับ พอไปถึงบ้านน้อง ผมก็ต้องรอให้พ่อแม่น้องเค้าหลับก่อน ถึงค่อยปีนรั้วเข้าไปได้ โดยน้องเค้าจะเปิดประตู ดูต้นทางให้ นอนคืนแรกก็ปกติดีไม่มีอะไร แล้วพอใกล้เช้าผมก็ต้องรีบออกมา จากนั้นมาผมก็มาค้างที่บ้านน้องเค้าบ่อยๆ ครับ มาเวลาเดิมตลอด บางคืนพ่อแม่น้องเค้านอนดึก ผมก็ต้องนั่งรอที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านคนเดียว และในสวนนี่มีศาลตายาย และศาลพระภูมิตั้งอยู่ กลิ่นธูปโชย อากาศเย็นๆ วังเวงมากครับ มีอยู่คืนหนึ่งที่ผมมาค้างครับ คืนนั้นผมหลับอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กๆ มาหัวเราะข้างๆ หูผม เป็นเสียงเด็กชาย และหญิง แล้วตัวผมก็รู้สึกหนักไปหมด ขยับก็ไม่ได้ หายใจลำบาก อึดอัดมากๆ จะหันไปเรียกน้องเค้าก็ไม่มีเสียง ผมเลยสวดมนต์ในใจ อธิษฐานว่า ตอนเช้าจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ อย่ามารบกวนกัน กว่าจะขยับตัวได้ เหงื่อนี่ท่วมเลยครับ พอก่อนเช้าตื่นมา ผมต้องกลับแล้ว เลยถามน้องเค้าว่า ‘ที่บ้านมีของอะไร หรือเลี้ยงกุมารหรือเปล่า?’ น้องก็บอกว่าไม่มี และบอกว่าผมคิดไปเอง หรือไม่ก็ฝันไป ผมก็ยังไม่เข็ดยังคงไปหาน้องเค้าเวลาเดิมอีก แต่คืนนี้ตอนผมนอน ได้ยินเสียงเหมือนอะไร ก่อกๆ แก่กๆ ดังมาจากตู้เสื้อผ้าที่ปลายเตียงครับ เสียงดังมาก อย่างกับมีคนเขย่าจากข้างในตู้เลย ผมก็ลุกขึ้นมา แต่กลับเห็นน้องนั่งกอดเข่า ร้องไห้ตัวสั่น อยู่ที่พื้นหน้าตู้เสื้อผ้า พอน้องเห็นผมก็เข้ามากอดครับ แล้วเสียงมันก็ยังดังอยู่อย่างนั้น 3–4 นาทีได้ จนเสียงหยุด ผมลุกไปเปิดไฟ เปิดตู้เสื้อผ้าดู แต่ก็ไม่มีอะไร แต่น้องยังนั่งร้องไห้ตัวสั่น ผมเลยพยายามเค้นว่าที่นี่มันมีอะไรกันแน่? จนสุดท้ายก็ได้คำตอบครับ น้องเล่าว่าเคยท้องกับแฟนคนก่อน เป็นท้องแฝด และก็ตัดสินใจทำแท้งด้วยตัวเองที่นี่ แล้วก็กลัวคนรู้ ไม่กล้าเอาซากเด็กไปทิ้ง เลยเก็บซากไว้ในตู้เสื้อผ้า ผ่านไปหลายเดือนถึงค่อยไปทิ้ง แล้วหลังจากนั้นมาน้องเค้าก็เจอมาตลอดเลย ทั้งเสียง ทั้งเงา แทบไม่เว้นคืน เลยอยากให้ผมมานอนด้วยบ่อยๆ พอผมได้ยินแค่นั้นล่ะ ขนลุกเลยครับ เพราะตู้นี้เนี่ย ผมก็เคยเข้าไปแอบพ่อแม่น้องเค้าอยู่หลายครั้งด้วยนะ และจำได้ว่าบรรยากาศในตู้ มันรู้สึกเหมือนมีคนจ้องตาอยู่ตลอดเวลา อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก น้องบอกอีกว่าแฟนเก่าเป็นอิสลาม เลยไม่เคยได้ทำบุญให้เด็กเลย พอช่วงประมาณตี 4 กว่า ผมปีนรั้วออกมาจะกลับบ้านแต่สิ่งที่แปลกวันนี้คือพอผมเดินผ่านบ้านที่มีหมา หมาจะหอนเสียงโหยหวน และหอนไล่หลังผมกันหมด ผมเดินมาจนถึงกลางหมู่บ้าน เสียงหมานี่หอนประสานเสียงกันเลยครับ ตอนนั้นผมไม่กล้ามองกลับไปข้างหลังจริงๆ กลัวว่าจะมีอะไรตามผมมาด้วย ผมเดินตัวเกรงไปจนถึงถนนใหญ่ รีบโบกแท๊กซี่กลับทันที วันรุ่งขึ้นผมรีบไปทำบุญกรวดน้ำให้เลย ปัจจุบันนี้ผมไม่ได้คบกับน้องคนนี้แล้วนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง