เรื่องเล่าตำนานของมหาวิทยาลัย


     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ที่วิทยาลัยเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ผมไม่ได้เจอกับตัว แต่เป็นเพื่อนร่วมห้องที่เรียนมาด้วยกันเจอ ซึ่งผมก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยครับ และเรื่องนี้โด่งดังมากในวิทยาลัย จนสมัยนั้นอาจารย์ให้ปิดเรื่องไว้เป็นความลับ เพราะกลัวเด็กในวิทยาลัยจะกลัวกัน ห้องของผมนั้นมีประมาณ 30 กว่าคน เป็นนักศึกษาแผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วันนั้นพวกผมก็เรียนกันตามปกติ ไม่มีอะไร จนมาถึงวิชาสุดท้าย คือวิชาพิมพ์ดีด ซึ่งเป็นวิชาที่อาจารย์ค่อนข้างจะเข้มงวดมาก อาจารย์ให้พวกผมพิมพ์งานกันจนเสร็จ ถ้าใครพิมพ์ไม่เสร็จ ห้ามกลับบ้าน วันนั้นพวกผมอยู่พิมพ์งานกันจนถึง 6 โมงเย็น ซึ่งช่วงนั้นนักเรียนในวิทยาลัยก็ทยอยกลับกันหมดแล้ว เพราะที่นี่เป็นวิทยาลัยเล็กๆ มีนักเรียนไม่มากนัก พวกผมพิมพ์งานกันไปเรื่อยๆ จนมันมีอยู่ช่วงหนึ่งครับ จู่ๆ ผมก็ได้กลิ่นธูปลอยผ่านจมูก กลิ่นแบบแรงมาก แต่ผมก็เงียบไว้ไม่พูดอะไร เพราะเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เค้าว่า ห้ามพูด ห้ามทัก เวลาเจออะไรแบบนี้ แต่มีเพื่อนผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เป็นคนอิสลาม เค้าก็พูดขึ้นว่า ‘เฮ้ย! มีใครได้กลิ่นธูปเหมือนกูป่าววะ?’ เท่านั้นแหละครับ พวกผมที่นั่งพิมพ์ดีดกันอยู่ ก็รีบวิ่งหน้าตื่นมารวมตัวกันที่หลังห้อง ผมมั่นใจว่าทุกคนคงได้กลิ่นเหมือนกันหมด เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเท่านั้นเอง จากนั้นพวกเราก็ตั้งวงนั่งคุยกันเรื่องกลิ่นธูปว่าจะเป็นไปได้มั้ยที่ภารโรงอาจจะจุดธูปไหว้ศาล แต่พอคิดไปคิดมา แถวนี้ก็ไม่มีศาลอะไรเลย ระหว่างที่เรานั่งคุยกัน อยู่ๆ ก็มีเสียงเดินครับ เป็นเสียงรองเท้า เดินอยู่ที่นอกห้อง และเหมือนเสียงไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องพิมพ์ดีดครับ ตอนนั้นทุกคนเงียบกันหมดเลย นั่นแปลว่าทุกคนได้ยินเหมือนกันอีกแล้วสิครับ เพื่อนผู้หญิงที่เป็นอิสลาม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเธอไม่กลัวหรือว่ายังไง เธอก็ตะโกนออกไปว่า ‘ใครน่ะ?’ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ จังหวะนั้นเองมันมีเครื่องพิมพ์ดีดที่มันพังใช้การไม่ได้อยู่เครื่องหนึ่ง บนโต๊ะหน้าห้อง ‘แต่ก..’ เสียงกดพิมพ์ดีดดังขึ้นมา 1 ครั้ง! พวกผมทุกคนก็มองหน้ากัน และก็ขนลุกซู่ เพราะไม่มีใครนั่งอยู่ที่เครื่องพิมพ์ดีดเลยสักคน พวกผมไม่มีกะจิตกะใจที่จะพิมพ์ดีดต่อเลย สรุปก็หนีกลับบ้านหมด พิมพ์งานไม่เสร็จยอมโดนด่ากันไป แล้วเรื่องนี้ก็เงียบไป จนทุกคนลืมจนมีอยู่วันหนึ่งครับ เพื่อนผู้หญิงในแผนกผมได้ไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 3 ไปกัน 4 คน แล้วตรงทางออกห้องน้ำ จะมีกระจกบานใหญ่ที่เอาไว้คอยส่องเช็คดูเสื้อผ้าว่าเรียบร้อยไหม พอพวกเพื่อนๆ ผู้หญิงผมทำธุระกันเสร็จ ก็พากันถ่ายรูปหมู่ในกระจกกัน และมาโพสท์ลงเฟสบุค ก็โพสท์ไปไม่ได้คิดอะไร แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนๆ ในเฟสที่เห็นโพสท์ ก็มาคอมเม้นท์กันในรูปของเพื่อน 4 คนนั้น ว่ามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งติดมากับรูปถ่ายด้วย เป็นใคร ทำไมไม่แท็กชื่อ? ซึ่งพอเพื่อนๆ ทั้ง 4 คนได้มาดูรูปก็ต้องตกใจมากๆ เพราะมันมีเงาคนอีกคน อยู่ข้างหลังทางขวาจริงๆ ดูเหมือนเป็นผู้หญิง แต่ไม่มีหน้า สีผิวคล้ำๆ เขียวๆ จากนั้นรูปนี้ก็ถูกเผยแพร่ออกไปในกลุ่มวิทยาลัย จนอาจารย์ให้ลบรูปนี้ทิ้ง เพราะเด็กในวิทยาลัยเริ่มกลัว และจับกลุ่มคุยกันแต่เรื่องนี้จนไม่เป็นอันเรียน แต่เพื่อนของผมยังเก็บรูปนี้ไว้ในโทรศัพท์ครับ เพราะมันเป็นประสบการณ์สยองของวิทยาลัยเรา หลังจากวันนั้นพวกผมก็ได้ไปถามกับอาจารย์เก่าแก่ท่านหนึ่งของวิทยาลัย ซึ่งท่านบอกว่า ‘ผู้หญิงที่ติดมากับรูปนี้ สวมชุดนักศึกษารุ่นเก่า น่าจะเป็นเธอคนนั้น เมื่อหลายปีที่แล้วเธอจบ ป.ว.ส. กำลังจะได้วุฒิการศึกษา แต่กลับถูกรถชนหน้าวิทยาลัยเสียชีวิตทันที แต่เหมือนกับวิญญาณของเธอ ยังคงมาเรียนอยู่ในวิทยาลัย และคอยหยอกล้อน้องๆ รุ่นต่อๆ ไป..’ และหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทางวิทยาลัยได้มีการทำบุญวิทยาลัยครั้งใหญ่ เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปให้หมด แต่เรื่องเล่านี้ก็ยังคงเป็นตำนานเล่าต่อกันมาจนทุกวันนี้ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขอกินน้ำหน่อย!

โรงเรียนสุดหลอน

พนักงานหลอกลวง